ช่วงนี้ ถ้าคุณใช้ Google Workspace สำหรับการทำงานประจำ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล เก็บไฟล์ ทำเอกสาร วิเคราะห์ข้อมูล หรือทำงานร่วมกับทีม ปี 2025 ถือเป็นครั้งใหญ่ที่ Google ยกระดับ Workspace ให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น: AI ชาญฉลาดขึ้น, Collaboration ลื่นขึ้น, ความปลอดภัยแน่นขึ้น ให้เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและองค์กรใหญ่
บทความนี้จะพาไล่ดู “อัปเดตสำคัญ” ทั้งหมด โดยแบ่งตามหมวดใหญ่ เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนว่า “อะไรใหม่” “มีประโยชน์อย่างไร” และ “ควรเริ่มใช้ตอนไหน”
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
1.AI & Smart-Assist / Automation — เมื่อ AI อยู่ทุกจุดใน Workspace
Gemini 3 Pro: AI รุ่นใหม่ที่พร้อมให้ทุกคนใช้งาน
ปี 2025 Google เปิดตัว Gemini 3 Pro — โมเดล AI รุ่นล่าสุดที่ฉลาดและยืดหยุ่นกว่าที่เคย ทั้งในแง่ reasoning, การประมวลผลข้อความ, รูปภาพ, เสียง และวิดีโอ พร้อมใช้ได้ทั่วทั้งแพลตฟอร์ม (desktop / mobile / web)
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร :
- ไม่ต้องพึ่งปลั๊กอินหรือเครื่องมือข้างนอก — AI มาอยู่ใน Workspace โดยตรง
- AI ช่วยได้ทั้งงานเอกสาร รายงาน วิเคราะห์ข้อมูล หรือแม้แต่งานสร้างสรรค์ (content, presentation, ไอเดีย)
Gemini ใน Google Drive: จาก “ดูไฟล์” → สู่ “จัดการไฟล์ + สร้างไฟล์ + วิเคราะห์ไฟล์” ได้ในที่เดียว

หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าจับตา: Side-panel ของ Gemini บน Google Drive ตอนนี้ไม่ใช่แค่ “สรุปเอกสาร / ดูไฟล์” ได้อย่างเดียว แต่ช่วยให้คุณ:
- สร้างไฟล์ใหม่: Docs / Sheets / Slides หรือแม้แต่โฟลเดอร์ ผ่าน prompt เดียว โดยไม่ต้องคลิกหลายรอบ
- จัดการและวิเคราะห์ “หลายไฟล์พร้อมกัน” เช่น ลากโฟลเดอร์ที่มีไฟล์เอกสารหลายตัวมา แล้วให้ Gemini สรุป วิเคราะห์ หรือเปรียบเทียบให้ทันที
ฟีเจอร์นี้เหมาะมากกับคนที่มีไฟล์เยอะหลายประเภท หรือทีมที่แชร์เอกสารข้ามกัน แทนที่จะ “เปิดทีละไฟล์” → “อ่านข้อความ” → “จดโน้ตเอง” แต่ตอนนี้ Gemini มาช่วยทำให้ขั้นตอนนั้นย่อเหลือแค่ “ถามแล้วได้ผล” เลยทันที
AI Summary & Collaboration: ให้ AI ช่วยสรุป

- ใน Chat: หากมีไฟล์แนบ ไม่ว่าจะเป็น PDF, Word, Excel, CSV, ZIP ระบบสามารถ “สรุปเนื้อหาไฟล์ทั้งหมดให้โดยอัตโนมัติ” เหมาะมากกับการแชร์เอกสารหลายไฟล์ในทีม
- ใน Docs: มี “AI Summary Block” ที่ช่วยแทรกสรุปให้เอกสาร เหมาะกับรายงานยาว, โน้ตประชุม, หรือเอกสารที่ต้องแชร์ให้ผู้บริหาร
AI ไม่ใช่แค่ “ช่วยหา” แต่ “สามารถทำให้งานเสร็จได้จริง” และช่วยให้ทีมประหยัดเวลาทบทวนข้อมูลหรือเอกสารจำนวนมากได้อย่างมหาศาล
2.Communication, Collaboration & Workflow — ทำงานเป็นทีมได้ลื่นไหลและลดขั้นตอน
Gmail ↔ Chat Integration: เมื่ออีเมลเจอแชท — เปลี่ยนโหมดทำงานทันที

สำหรับหลายทีม การคุยงานอาจเริ่มจากอีเมล แล้วต้อง “ย้ายไป Chat” เพื่อคุยต่อหรือทำงานร่วมกัน — ฟีเจอร์นี้ช่วยให้:
- แชร์อีเมลจาก Gmail เข้า Chat ได้ทันที
- เลือกได้ว่าจะส่งไป space กลาง, กลุ่มใหม่, หรือให้เฉพาะบางคนเห็น
ผลคือ: การสื่อสารข้ามแพลตฟอร์ม (อีเมล ↔ แชท) สะดวกกว่าเดิม ลดความซับซ้อนในการติดตามงาน
Google Chat / Meet เวอร์ชันอัปเกรด — ประหยัดเวลาในการสื่อสารภายในทีม

- ตอนนี้คุณสามารถ preview ข้อความล่าสุดในห้องที่ยัง unread แค่เอาเมาส์ไปวาง — ไม่ต้องคลิกเข้าไปทีละห้อง
- สำหรับเจ้าของ space / manager — มีตัวเลือกให้ “ปิด request to join space” ได้ → ช่วยควบคุมการเข้าถึง ทำให้การทำงานในทีมปลอดภัยยิ่งขึ้น
ฟีเจอร์เหล่านี้เหมาะสำหรับทีมที่มีการสื่อสารหลายห้อง หลายโครงการ — ลดเวลาที่เสียไปกับการคลิก/สลับแอป และช่วยให้ “เห็นภาพรวม” ได้ง่ายขึ้น
3.Security & Identity Management — สำหรับองค์กรที่คำนึงถึงความปลอดภัยและการจัดการผู้ใช้

ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้องค์กรเชื่อมต่อระบบล็อกอินภายนอกผ่าน OpenID Connect (OIDC) ได้อย่างยืดหยุ่น — ไม่จำกัดอยู่แค่ระบบของ Microsoft เท่านั้น
สำหรับองค์กรที่มีระบบ user management เดิมอยู่ (เช่น ระบบภายใน, AD, หรือ identity provider อื่น ๆ) — ถือว่าเป็นประโยชน์มาก เพราะไม่จำเป็นต้องย้ายระบบ หรือใช้หลายบัญชี
Drive Data Classification: มองเห็น “ระดับความสำคัญของไฟล์” ได้ทันที

หากองค์กรใช้ฟีเจอร์ classification / labeling สำหรับไฟล์ — ระบบตอนนี้จะแสดง label / status ของไฟล์ในทุกมุมมองของ Drive (My Drive, Shared Drives, Search results ฯลฯ)
ข้อดี:
- ทราบทันทีว่าไฟล์ไหนเป็น “sensitive / internal / restricted” โดยไม่ต้องเปิดดูทีละไฟล์
- ลดความเสี่ยงการเปิดเผยข้อมูลสำคัญโดยไม่ตั้งใจ
เหมาะกับองค์กรที่ต้องการควบคุมสิทธิ์และจัดการเอกสารอย่างมีระบบ
4.Business-scale Features & Integrations — เมื่อองค์กรใหญ่ต้องการ “เครื่องมือที่จริงจัง”
Workspace Studio – สร้าง AI Agents แบบ no-code เพื่อ automate งานซ้ำ ๆ

หนึ่งในอัปเดตที่สำคัญสำหรับธุรกิจและองค์กรขนาดกลางถึงใหญ่คือ Workspace Studio — เครื่องมือที่ให้คุณสร้าง “AI Agents” โดยไม่ต้องเขียนโค้ด ซึ่งสามารถ:
- สรุปการประชุม (meeting) อัตโนมัติ
- เขียนอีเมลรายงาน
- ตรวจสอบข้อมูล
- สร้างรายงานสรุป (weekly / monthly)
ด้วย Workspace Studio — งานที่เคยทำวนซ้ำเป็นประจำ สามารถ “ตั้งให้ AI ทำแทน” ได้ ช่วยลดภาระ manual work และให้ทีมโฟกัสกับงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากขึ้น
Integration กับระบบภายนอก — Egnyte และอื่น ๆ เพื่อความยืดหยุ่นสูงสุด

สำหรับองค์กรที่ใช้หลายระบบพร้อมกัน (เช่น ระบบเก็บไฟล์, ระบบจัดการเอกสารภายนอก) Workspace ในเวอร์ชันใหม่รองรับการเชื่อมต่อกับบริการภายนอก เช่น Egnyte ทำให้คุณ:
- เปิด ดู หรือแก้ไขไฟล์ใน Workspace ผ่าน Egnyte ได้โดยตรง
- จัดการไฟล์หลายระบบผ่านอินเทอร์เฟซเดียว
ข้อดีคือ ลดความซับซ้อนใน workflow สำหรับทีมที่ใช้หลายแพลตฟอร์ม —> ไม่ต้องย้ายไฟล์ไปมา —> และช่วยให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ทำไมอัปเดตรอบนี้ “สำคัญมาก” สำหรับธุรกิจและทีมทำงานยุคใหม่
| ประเด็น | ผลต่อการทำงาน |
|---|---|
| AI ครอบคลุมทุกมุมของ Workspace | ลดเวลาทำงาน ลดงานซ้ำ เปิดโอกาสให้โฟกัสกับงานที่สร้างคุณค่า |
| Collaboration & Chat/Email Integration | สื่อสาร-แชร์-สรุปข้อมูลในทีมได้เร็ว ลื่น ไม่สะดุด |
| Security & Data Governance | ควบคุมผู้ใช้และไฟล์ได้ชัดเจน ลดความเสี่ยงด้านข้อมูล |
| Automation & Integration สำหรับองค์กร | เหมาะกับองค์กรที่ต้องการ scalability, efficiency และลดภาระทีมงาน |
บทสรุป
อัปเดตของ Google Workspace ปี 2025 คือการรวบรวมทุกสิ่งที่ “องค์กรยุคดิจิทัลต้องการ” — AI ที่ฝังลึกในทุกฟีเจอร์, Collaboration ที่นุ่มนวล, ระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กร, และเครื่องมือ automate ที่ช่วยให้ทีมทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ไม่ว่าคุณจะเป็นบริษัทเล็กที่ต้องการประหยัดเวลา หรืองานระดับองค์กรที่ต้องการระบบที่มั่นคง — Google Workspace เวอร์ชันนี้ออกแบบมาให้ “ทำงานครบ จบในที่เดียว”
ถ้าคุณกำลังวางแผนปรับระบบขององค์กร หรืออยากให้ทีมใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ใหม่อย่างเต็มที่ — ตอนนี้อาจเป็นเวลาที่ใช่ที่สุด
อ้างอิงข้อมูลจาก https://workspaceupdates.googleblog.com/
How we can help
Fill out the form below to discuss your needs or learn more about our services
"*" indicates required fields

