Youtube SEO คืออะไร เข้าใจการทำงานของอัลกอริทึม มีแนวทางทำ SEO อย่างไรคอนเทนต์ที่อัปโหลดไว้จะเข้าถึงคนมากขึ้นและเพิ่มยอดวิวให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ทำไมอัปคอนเทนต์ลงช่องเหมือนทุกที แต่ยอดวิวที่เคยมีกลับหายจ๋อม ความสงสัยนี้คงเป็นสิ่งที่คนทำยูทูบอดคาใจไม่ได้ว่าแม้จะตั้งใจและลงแรงไปตั้งเท่าไหร่ คนดูถึงไม่เพิ่มขึ้นแถมน้อยลงอีกต่างหาก หรือแท้จริงแล้วเป็นเพราะมองข้ามการทำ SEO และผลลัพธ์แง่ลบอาจกระทบยอดวิวต่อกันเป็นลูกโซ่ได้เลยทีเดียว ลองมาดูกันดีกว่าทำ SEO อย่างไรคนถึงจะเจอคลิปของเราบนยูทูบมากขึ้น
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
ทำไมวิดีโอถึงได้อยู่หน้าโฮม Youtube.com
เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมเมื่อเข้ามาหน้า Youtube.com ยูทูบรู้ได้อย่างไรว่าควรเอาวิดีโอแบบไหนมานำเสนอไว้บนหน้าแรก (Youtube’s Recommendation System)
แท้จริงแล้ว ระบบอัลกอริทึมของ Youtube มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2008 ที่ใช้ระบบแนะนำคลิปจากระดับความนิยม ก่อนจะเพิ่มเติมระยะเวลาที่ดูวิดีโอนั้นๆ เข้ามาเพื่อวัดว่าวิดีโอแบบไหนที่คนเข้าดูจนจบ แต่ระยะเวลาที่คนอยู่ดูก็ไม่ใช่เวลาวัดคุณภาพคลิปเสียทีเดียว
จนกระทั่งในปี 2015 ยูทูบเพิ่มการกด Like และ Dislike เข้ามาช่วยวัดว่าคุณภาพของวิดีโอนั้นถูกใจคนดูแล้วหรือยัง เพื่อที่ว่าผู้ใช้จะได้รับประสบการณ์ใช้งานที่เฉพาะเจาะจงกับตัวเองโดยไม่ขึ้นอยู่กับคนหมู่มาก ส่งผลให้ในปี 2018 กว่า 70% ของเวลาที่ผู้ใช้อยู่บนยูทูบได้ใช้ไปกับวิดีโอที่ยูทูบแนะนำมาให้
ล่าสุดในปี 2022 ยูทูบอัลกอริทึมเลือกวิดีโอให้คนดูเพื่อ 2 เหตุผลหลักๆ คือ เสนอวิดีโอให้ตรงกับแต่ละคน และ ทำให้คนเหล่านั้นยังคงดูไปเรื่อยๆ
อัลกอริทึมของ Youtube มีอะไรบ้าง
ระบบคัดสรรที่ทำงานโดยอัลกอริทึมของยูทูบทำหน้าที่แตกต่างกันออกไป คือ
- อัลกอริทึมที่เลือกวิดีโอสำหรับหน้าโฮมเพจยูทูบ
- อัลกอริทึมที่จัดอันดับคลิปตามคีย์เวิร์ดที่ค้นหา
- อัลกอริทึมที่เลือก วิดีโอแนะนำ เพื่อให้คนยังอยู่ดูบนยูทูบต่อไป
อัลกอริทึมของ Youtube ทำงานอย่างไร
เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้คนเข้าใช้ยูทูบ อัลกอริทึมของยูทูบจะเลือกนำเสนอคอนเทนต์แบบกว้างๆ ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้จะขึ้นมาอยู่บนหน้าโฮมเพจได้ด้วย Ranking signals ซึ่งเป็นสิ่งที่อัลกอริทึมยูทูบมองหาในวิดีโอว่าเพื่อเลือกนำเสนอสู่สายตาผู้ใช้ ได้แก่
- Performance : ประสิทธิภาพของวิดีโอบนยูทูบ วัดจากอัตรา click-through rate, ช่วงเวลาเฉลี่ยที่ดูคลิป, เปอร์เซ็นต์เฉลี่ยที่ดูคลิป, ยอด Like/Dislike รวททั้ง Viewer Surveys
- Personalization : ความเฉพาะบุคคล เช่น ประวัติการเข้าชม การกด Like หรือกดติดตามช่องต่างๆ
- External Factors : ปัจจัยภายนอก เช่น ประเด็นสังคมหรือเทศกาลต่างๆ
Youtube SEO คืออะไร
Youtube SEO (Search Engine Optimization) เป็นขั้นตอนการปรับปรุงประสิทธิภาพวิดีโอให้สามารถเป็นที่รู้จักได้มากขึ้นผ่านช่องทางค้นหา เมื่อไหร่ก็ตามที่ผู้ใช้ค้นหาคลิปต่างๆ บนยูทูบ การทำ SEO จะช่วยทำให้ช่องของเราเป็นที่มองเห็นมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อยูทูบมีเวอร์ชันอัปเกรดใหม่ไร้โฆษณาที่ต้องเสียค่า Subscription ทุกๆ เดือนแพลตฟอร์มเองจึงย่อมต้องทำให้คนที่เลือกสมัครมาได้รับความคุ้มค่ากลับคืนมากที่สุด
ทำไมยอดวิวคลิปยูทูบถึงน้อยลงเพราะไม่ทำ SEO
1.Keywords ไม่ตรง
Keywords คือก้าวแรกของการทำ Youtube SEO และเป็นวิธีที่ระบบอัลกอริทึมใช้นำเสนอคลิปวิดีโอให้ผู้คนได้ตรงใจตามต้องการผ่านการเลือกคลิปที่ใช้คำได้เกี่ยวข้องมากกว่า เช่น คลิปที่มีคำว่า เทรดหุ้น จะสามารถเข้าถึงกลุ่มคนที่ สนใจเรื่องหุ้นและการลงทุนผ่านการค้นหาคำว่า สอนเล่นหุ้น เทรนดหุ้นแบบมือใหม่ เริ่มต้นเทรดหุ้น เทรดหุ้นต้องทำยังไง เป็นต้น เแน่นอนว่ายิ่งแพลตฟอร์มอย่างยูทูบตอบโจทย์ความสนใจของผู้คนมากเท่าไหร่ ค้นหาแล้วเจอสิ่งที่อยากดูอยากฟังผู้คนเหล่านี้ก็ยินยอมพร้อมใจที่จะอยู่ใช้เวลาบนยูทูบนานขึ้น
2.มี Title ที่ไม่กระชับชัดเจนดีพอ
แน่นอนว่าส่วนประกอบของยูทูบที่จะทำให้คนมองเห็นแล้วเข้าใจทันทีว่าคลิปนั้นๆ มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรคือส่วนของ Title หรือ ชื่อคลิป โดยเฉพาะชื่อคลิปที่มีความครบถ้วนกระชับและชัดเจน ย่อมมีโอกาสขึ้นมาแสดงผลบนหน้าค้นหาคลิปได้ดีกว่า
3.คำอธิบายคลิปไม่ขยายความ
เพราะอัลกอริทึมของ Youtube ยังไม่สามารถวิเคราะห์เนื้อหาที่เป็นคลิปหรือภาพได้ดีพอที่จะประเมินคุณภาพคลิปทั้งหมดตลอดได้ เช่นนั้นแล้วคำอธิบายคลิปจึงเป็นส่วนช่วยทั้งอัลกอริทึมและคนดูสามารถเข้าใจได้มากขึ้นว่า คอนเทนต์มีประเด็นเกี่ยวกับอะไร เพิ่มการมีส่วนร่วมในการกดอ่านหรือคลิกลิงก์ไปยังหน้าอื่นๆ
4.มองข้ามการใส่ tags สำคัญ
ท่ามกลางมหาสมุทรคอนเทนต์ที่มีอยู่อย่างมหาศาลบนยูทูบ การใส่ tags คือส่วนเล็กๆ ทว่าสำคัญมากในการบอกกับคนดูและอัลกอริทึมให้เข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับคอนเทนต์เพิ่มมากขึ้น สามารถโดดเด่น เป็นที่รู้จัก และเข้าถึงคนได้อีกมาก ในขณะเดียวกัน การหว่านใส่ tags ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคลิปก็มีโอกาสโดนอัลกอริทึมดันให้หล่นออกจากสายตาผู้คนเช่นกัน
5.ไม่จัดระเบียบคลิปบนช่อง
การจัดระเบียบคลิปบนช่องให้เป็นหมวดหมู่จะช่วยสร้างการกระจายของคอนเทนต์ได้มากขึ้น เพราะรูปแบบแพลตฟอร์มของ Youtube ที่ต้องการให้คนอยู่ใช้งานนานๆ โดยการแสดงผลคอนเทนต์ที่ใกล้เคียงให้ดูต่อเนื่องไม่ขาดตอน ซึ่งเมื่อเราจัดหมวดหมู่ให้เหมาะสมก็เข้าถึงกลุ่มผู้คนที่สนใจในสิ่งเดียวกันได้กว้างขึ้น
ทุกวันนี้ ระบบแนะนำของ Youtube ใช้กว่า 80 Billions ของชิ้นข้อมูลเป็นสัญญาณว่าควรนำเสนอคอนเทนต์แบบใดให้แก่ใคร และท้ายที่สุดแล้วการมีรูปแบบการทำ SEO ที่ชัดเจนและปรับแต่งมาเพื่อเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจงคือส่วนช่วยให้ประสิทธิภาพช่องยูทูบเติบโตได้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของไลฟ์สไตล์ผู้คนและการทำงานของอัลกอริทึม
ที่มาข้อมูล Blog Youtube