วัดผล Content Creator ด้วย SEO ใช้ Metrics อะไรบ้าง ?

Metrics ต่างๆที่เราใช้วัดผล SEO ไม่ว่าจะเป็น Organic Traffic, Keyword rankings, Dwell time ล้วนแต่เป็น Metrics และ KPIs ที่เราได้จากการวัดผลทาง SEO ทั้งสิ้น และทั้งนักการตลาดและ Content Creator ก็ควรจะต้องวัดผลด้วย KPIs นี้เช่นกัน

และนอกเหนือจากนั้น การที่เราอยู่ในอันดับ 1 ของ SEO Ranking ก็จะช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก ถูกมองเห็นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ก่อนคู่แข่ง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันสุดๆ แต่อันดับที่ว่านี้จะถูกอัปเดทอยู่ตลอดเวลา นั่นหมายความว่าเราสามารถถูกแย่งตำแหน่งได้ทุกเมื่อถ้าเราไม่ได้อัปเดท Metrics ต่างๆ และ Take Action อย่างทันเวลา (เพราะถ้าช้า จะโดนคู่แข่งแซงเอาได้นะครับ)

เพื่อลงรายละเอียดว่าทำไมเราจึงควรติดตามตัวเลขของ Metrics พวกนี้ เชิญอ่านต่อกันได้เลยครับ

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

Organic Traffic

Organic Traffic คือตัวเลขผู้ใช้งานที่เข้ามาในเว็บไซต์ของเราจากการใช้ Search engine ไม่ว่าจะเป็น Google Search ที่เราทุกคนใช้กันอยู่บ่อยๆ หรือ Yahoo Search 

ซึ่งเป็น Metrics ที่จะบอกถึงสุขภาพ SEO โดยรวม และแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ของเราดึงดูดผู้ใช้งานผ่านการค้นหาบนอินเตอร์เน็ตได้ดีหรือเปล่า

Keyword Rankings

Keyword Rankings คืออันดับที่เว็บไซต์ของเราแสดงผลบนหน้าค้นหาจาก Keyword ต่างๆ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Search Engine Results Pages (SERPs)

เป็น Metrics ที่จะช่วยให้เรารู้ได้ว่าเนื้อหาหรือคอนเทนต์ต่างๆที่เราโพสลงไปในเว็บไซต์นั้นมีความเกี่ยวข้องกันกับสิ่งที่ผู้ใช้งานต้องการหรือเปล่า และยังจะช่วยบอกเราได้ว่า Keyword ไหนที่เราควรจะต้องปรับปรุงให้ขึ้นไปอยู่ในหน้าแรกโดยด่วน

Dwell Time

Dwell Time คือระยะเวลาที่ผู้ใช้งานใช้ไปในหน้าใดหน้าหนึ่งบนเว็บไซต์ที่คลิกเข้ามาจากผลการค้นหา 

ยิ่งตัวเลข Dwell Time สูงเท่าไหร่ นั่นหมายถึงคอนเทนต์ของคุณมีความน่าสนใจและตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานตาม Keyword ที่เค้าเสิร์ชมาจริงๆ

Click-Through Rate (CTR)

Click-Through Rate (CTR) คือร้อยละของผู้ใช้งานที่คลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราจากหน้าผลการค้นหาบน Search Engine 

ยิ่งตัวเลขตรงนี้สูงมากเท่าไหร่ นั่นหมายความว่าเรามีการตั้งชื่อเรื่องได้น่าสนใจและตรงกับ Search Intent มากเท่านั้น

Conversions

Conversion คือกิจกรรมใดๆที่ผู้ใช้งานได้กระทำแล้วส่งผลให้เรามีรายได้เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ หรือเกิดมูลค่าต่อเว็บไซต์ของเรา ซึ่งค่า Conversion ที่เราจะตั้งนั้นอาจจะเป็น การที่ลูกค้ากดซื้อสินค้า (Purchase), ลงทะเบียนในแบบฟอร์ม (Drop Lead), ส่งข้อความเข้ามาใน Live Chat,

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น

ตัวเลข Conversion นี้จะบอกเราได้ว่าคอนเทนต์ที่เราตั้งใจเขียนไปนั้นมาถูกทางหรือเปล่า สามารถก่อให้เกิดรายได้และมูลค่ากับธุรกิจจริงๆใช่ไหม ยิ่งค่า Conversion สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งดีเท่านั้นครับ

สรุป

เมื่ออ่านกันจนจบแล้ว เราอยากจะบอกทุกคนว่าข้อมูลตัวเลขพวกนี้จะเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การที่เราได้ครองอันดับ 1 ในวันนี้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นอันดับ 1 ตลอดไป เราควรอัพเดทและเรียนรู้อยู่เสมอ จะดีไหมถ้าเรามีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาอยู่เคียงข้าง

หากใครสงสัยว่าจะต้องติดตั้งเครื่องมือตัวไหนเพื่อวัดผล KPIs เหล่านี้ หรือจะเข้าถึงข้อมูลในส่วนของ Keyword ที่เกี่ยวข้องและเหมาะสมกับธุรกิจของคุณได้จากที่ไหน และจะติดตั้งเครื่องมือเหล่านั้นอย่างไร สามารถติดต่อ Predictive ได้เลยครับ เรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย