เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
ปัญหาหลักที่ทำให้ Netflix สูญเสียสมาชิก
ในไตรมาสแรกของปี 2024 Netflix สูญเสียสมาชิกเกือบ 200,000 ราย โดยสาเหตุหลักมาจาก
- การตรวจสอบ IP address: Netflix ตรวจสอบ IP address ของอุปกรณ์ที่ใช้สตรีมเนื้อหา หาก IP address ของอุปกรณ์ไม่ได้อยู่ในพื้นที่เดียวกัน Netflix อาจบล็อกอุปกรณ์นั้น
- การแข่งขันที่เพิ่มขึ้น: บริการสตรีมมิ่งอื่นๆ เช่น Disney+, HBO Max และ Amazon Prime Video กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ผู้ใช้บางรายอาจเปลี่ยนไปใช้บริการเหล่านี้แทน Netflix
- การปรับขึ้นราคา: Netflix ปรับขึ้นราคาสมาชิกในบางประเทศ ซึ่งทำให้ผู้ใช้บางรายยกเลิกการสมัครสมาชิก
Netflix สูญเสียสมาชิกจำนวนมากจากกรณีที่กล่าวข้างต้น แต่ในขณะเดียวกัน Netflix ก็รับมือกับปัญหาเหล่านี้ได้ โดยการใช้การตลาดแบบอัตโนมัติ Marketing Automation จะเห็นตัวอย่างได้ชัดว่า ยังมีหนังหรือซีรีส์หลายเรื่องที่ได้รับความนิยม และ มีการพูดถึง ในบทความนี้เราจะพามาดูกันว่า Netflix ใช้ การตลาดแบบอัตโนมัติ Marketing Automation อย่างไร
Marketing Automation คือการใช้ซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีเพื่อทำให้กระบวนการทางการตลาดต่างๆ เป็นอัตโนมัติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดความซับซ้อน และปรับปรุงความสม่ำเสมอของกิจกรรมทางการตลาด
Netflix เริ่มต้นจากธุรกิจเช่าดีวีดีทางไปรษณีย์ ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลและกลายเป็นเจ้าแห่งวงการสตรีมมิ่ง ความสำเร็จของ Netflix นั้นไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากใช้ข้อมูลที่มีอยู่อย่างสร้างสรรค์
Netflix เก็บรวบรวมข้อมูลมหาศาลเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้ใช้งาน เช่น ประเภทคอนเทนต์ที่รับชม ระยะเวลาที่รับชม อุปกรณ์ที่ใช้ อันดับการให้คะแนน ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้ถูกนำมาวิเคราะห์โดยใช้เทคนิค Data Science ช่วยให้ Netflix เข้าใจผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้ง
ตัวอย่างการ Personalized Content โดยวิเคราะห์ว่าผู้ชมชอบดูคอนเทนต์ประเภทไหน และแนะนำคอนเทนต์ที่ตรงกับความสนใจหรือเกี่ยวข้อง – ขอบคุณรูปภาพจาก VMO
Netflix ใช้การตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation) ในการรับมือกับปัญหาหลักของการสูญเสียสมาชิกยังไง
- การค้นหา: Netflix พัฒนาอัลกอริทึม(machine learning algorithms) ที่ช่วยคาดการณ์ว่าผู้ใช้แต่ละคนจะชอบคอนเทนต์ประเภทไหน แนะนำรายการที่ตรงใจ ทำให้ผู้ใช้มีประสบการณ์ที่ดึงดูดใจและน่าติดตาม
- การสร้างเนื้อหา: Netflix วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดูว่าผู้ใช้ชื่นชอบเนื้อหาแบบไหน ประเภทไหนได้รับความนิยม นำไปสู่การตัดสินใจลงทุนสร้างเนื้อหาต้นฉบับที่มีคุณภาพ ตรงใจผู้ใช้ และสร้างกระแส
- การแบ่งกลุ่มเป้าหมายและการตลาดแบบเฉพาะบุคคล (Segmentation and Personalized Marketing) Netflix ใช้ข้อมูลในการแบ่งกลุ่มผู้ชมตามพฤติกรรมการรับชม, ข้อมูลประชากร, ความสนใจ และปัจจัยอื่นๆ จากนั้นจึงส่งข้อความทางการตลาดที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่ม เช่น การส่งอีเมลหรือการแจ้งเตือนที่แนะนำซีรีส์หรือภาพยนตร์ใหม่ที่น่าจะตรงกับความสนใจของผู้ใช้แต่ละกลุ่ม
- การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้: Netflix วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดูว่าผู้ใช้มีปัญหาอะไรบ้าง เช่น ค้างบ่อย ขัดจังหวะ นำไปสู่การปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้ให้ราบรื่น รวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการ
- การขยายตลาด: Netflix วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดูว่าผู้ใช้กลุ่มไหนสนใจคอนเทนต์แบบไหน นำไปสู่การขยายตลาด เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ และเสนอเนื้อหาที่ตรงใจ
- การจัดการและปรับปรุงแคมเปญโฆษณา (Ad Campaign Management) Netflix ใช้ข้อมูลในการปรับปรุงแคมเปญโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Google Ads, Facebook Ads โดยใช้การแบ่งกลุ่มเป้าหมายที่ละเอียดขึ้นและการทดสอบ A/B เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของโฆษณา การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจเกี่ยวกับงบประมาณ, การเลือกแพลตฟอร์ม, และการกำหนดเป้าหมายของโฆษณาช่วยให้ Netflix สามารถดึงดูดผู้ชมใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป
Netflix ใช้ข้อมูลในการทำการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation) กำลังช่วยให้บริษัทดึงดูดผู้ใช้กลับมา และรักษาสมาชิกปัจจุบันไว้ กลยุทธ์นี้สามารถสร้างประสบการณ์ที่ตรงกับความต้องการและความสนใจของผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ Netflix สามารถรับมือกับปัญหาการสูญเสียสมาชิกได้
หากธุรกิจของคุณมีข้อมูลอยู่ และ ไม่รู้ว่าจะนำข้อมูลที่ได้มาไปใช้ยังไงได้บ้าง สามารถปรึกษาเราเพื่อวางกลยุทธ์ธุรกิจของคุณให้เติบโตมากยิ่งขึ้น เรายินดีใช้ประสบการณ์กว่า 12 ปีที่ได้ให้บริการลูกค้ากว่า 120 เจ้าในเรื่องของ Data มาให้คำแนะนำเบื้องต้นกับคุณโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Get in touch
Let's work together!
"*" indicates required fields