พูดคุยกับพี่โอ Data Analytics Manager ผู้มองว่าการทำงานกัน Data คือการทำงานกับอนาคต

พูดคุยกับพี่โอ Data Analytics Manager ผู้มองว่าการทำงานกัน Data คือการทำงานกับอนาคต

พบกันอีกครั้งกับ Predictive Culture Blog นะคะ ในครั้งแรกเราจะพาทุกคนไปรู้จักกับตำแหน่ง Data Analytics Manager มากยิ่งขึ้น โดยในบทความนี้เราได้ไปพูดคุยกับพี่โอ ซึ่งมีหลากหลายมุมมองที่น่าสนใจมาก ใครที่สนใจงานด้าน Data ห้ามพลาดบทความนี้ ถ้าพร้อมแล้วไปอ่านกันได้เลยค่ะ 

แนะนำตัวหน่อยค่า

สวัสดีครับ ชื่อโอ เป็น Data Analytics Manager อยู่ที่ Predictive ครับ พี่เรียนจบบัญชีมา ก่อนหน้านี้ก็จับงานหลายอย่างเลย เริ่มตั้งแต่งานบริษัททัวร์ เลขาด็อกเตอร์ งานโรงแรม และล่าสุดเป็น Digital Marketing ครับ

ทำไมพี่โอถึงสนใจทำงานที่ Predictive 

ช่วงที่ทำ Digital Marketing พี่ค่อนข้างคุ้นเคยกับฝั่ง Business และเครื่องมือทางการตลาดต่างๆ เช่น SEO , Programmatic , Google Ads, Google SEM , Facebook, LINE อยู่แล้ว แต่มีช่วงที่ได้มีโอกาสได้ทำงานด้าน Data ทำให้จุดประกายเราอยากลงลึกอยากเข้าใจในฝั่ง Data มากขึ้น ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้ทำงานกับพี่ต่อ ที่เป็น CEO ของ Predictive แล้วเรารู้สึกว่า Data มีเสน่ห์มากๆ ถ้าหากเราเข้าใจตั้งแต่การเก็บข้อมูล จนถึงการนำข้อมูลที่ได้มาใช้ให้เกิดประโยชน์และสร้าง business impact ได้ก็คงจะดี เลยเป็นจุด Trigger ให้พี่มาเริ่มทำงานที่นี่

หน้าที่ของ Data Analytics Manager มีอะไรบ้าง? 

ดูแลโปรเจ็กต์ต่างๆ ของบริษัทที่เราได้รับมอบหมาย ซึ่งหน้าที่หลักๆ ของเราคือ ช่วยลูกค้าวางแผนการเก็บ Data ต้องมีความเข้าใจเป้าหมายของลูกค้า KPI ที่ต้องการ Achieve รวมถึง support เวลาลูกค้ามีปัญหาอยากได้ solution ต่างๆ เราก็รู้สึกยินดีมากๆที่ได้มีโอกาสเข้าไปมีส่วนร่วมในธุรกิจของลูกค้า โดยสิ่งที่ต้อง Keep in mind คือเราจะพาลูกค้าไปให้ไกลกว่าเดิม และสร้าง Business Impact ให้มากที่สุด และ ส่วนในงาน internal ความรับผิดชอบคือถือ OKR ของบริษัท และที่สำคัญต้องดูแลจัดการงานต่างๆให้กับน้องๆ และที่ลืมไม่ได้คือ ความสุข ทุกข์ ของคนในทีมด้วยครับสำคัญมากๆครับ 

ซึ่งแต่ละโปรเจ็กต์ ก็ได้ทำงานกับลูกค้าหลากหลาย Industry และ business size ซึ่งแต่ละโปรเจ็กต์ก็จะมีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน เช่น มีวิธีการเก็บข้อมูลต่างกัน , การเข้าถึงข้อมูล , business model ที่ไม่เหมือนกัน เป็นต้น ซึ่งทำให้แต่ละโปรเจ็กต์นั้นต้องมี Customize วิธีการทำงานที่แตกต่างกันออกไป เป็นเรื่องที่ยากแต่ค่อนข้าง challenge แต่สนุกมากในเวลาเดียวกัน 

ทีม Predictive ก็เป็นเปรียบเสมือนทีมงานของลูกค้าจริงๆ เพราะเราเป็น Consulting ที่มีเข้าไป Involvement ในเนื้องานหลายๆส่วนของลูกค้าหากมีปัญหาอะไรที่เกิดขึ้นก็ต้อง Crackdown และ findout ปัญหาให้ลึกขึ้น หาต้นเหตุให้เจอ จนกว่าจะช่วยลูกค้าแก้ปัญหาได้ เราก็ทำงานบน Limitation ที่มีค่อนข้างเยอะเพราะ Data เป็นสิ่งสำคัญและละเอียดอ่อนมาก ระหว่างทางถ้าหากมีตรงไหนที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงได้ เราก็จะคอย Suggest ลูกค้าอยู่เสมอมันคือหัวใจหลักของการเป็น data consulting 

ข้อมูลและเทคโนโลยีต่างๆ เป็นเรื่องที่ซับซ้อนและมีการปรับเปลี่ยนค่อนข้างเยอะ เราต้องค่อยๆที่เรียนรู้เพิ่มและคอย Guide แนวทางกันไป เพื่อให้สุดท้ายแล้วผลลัพธ์ที่ได้ Beyond Expectation ที่ได้มีการตั้งไว้ตลอดจนเกิด Business Impactได้จริง เราก็คอย Guide ลูกค้า และอัปเดทความรู้ให้กันเสมอ เพราะเรื่องข้อมูลไม่ได้เป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ในวันเดียว ต้องค่อยๆ สื่อสาร ให้เห็นแนวทางร่วมกันครับ

งานของการเป็น Data Analytics Manager บางคนอาจจะคิดว่าเป็นงานที่เป็น Pattern หรือเปล่า แต่จริงๆ แล้วแต่ละโปรเจ็กต์ที่เราทำ จะมีส่วนที่แตกต่างกันหมด ตั้งแต่ Goal , Business Model, Business objective ของลูกค้า หรือ Technology ต่างๆที่ต้องใช้ในโปรเจ็กต์นั้นๆ ซึ่งเราก็ต้องปรับวิธีการทำงานตามอยู่ตลอดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดด้วย

Challenge ที่เจอในการทำงาน

แทบจะทุกส่วนเลยก็ว่าได้ พอมาทำงานที่นี่ก็ได้ทำในส่วนของ Execution มากขึ้น ในด้าน Data แบบ End – to – End ตั้งแต่พาร์ท Data Collection – Data Strategy –  Data Mapping – Data Activation  เราก็ต้องไปเรียนรู้เครื่องมือต่างๆ เพื่อปรับใช้ให้เหมาะกับโจทย์ และเทคโนโลยีของฝั่งลูกค้า เราต้อง work around Limitation ต่างๆ เช่น ตอนจะนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์​ เราจะเก็บข้อมูลยังไง ใช้ Service อะไร , ตอนนำข้อมูลไป Activation เครื่องมือที่ลูกค้าใช้สามารถ Sync กับเครื่องมืออะไรได้บ้างเป็นต้น เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุด

จากการเรามีพื้นฐานด้านการทำ Marketing และ Digital Marketing มาก่อนอยู่แล้ว เรารู้ Concept, Execution และ Outcome ว่าแต่ละอย่างทำเพื่ออะไร สร้าง value อะไรให้กับแบรนด์ แล้วอะไรบ้างที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง แต่การที่เปลี่ยนสายมาทำงานด้าน Data มัน challenge ทุกมุมเลย มากกว่านั้นคือการที่เราจะต่อยอดจะประสบการณ์ที่เรามีมาให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไรมากขึ้นผมคิดว่ามันท้าทายมากนะครับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย 

สกิลที่ต้องมี ถ้าอยากมาทำตำแหน่งนี้ 

ถ้าสนใจงานตำแหน่งนี้ อยากให้มีพื้นฐานเรื่อง Google tools ครับ เช่น Google Analytics, Google tag manager โดยศึกษาให้รู้ว่า tools ต่างๆมีการทำงานและเอามาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร

ตลอดจนเรื่องของความคิดการลองฝึกตั้งข้อสังเกต ฝึกตั้งคำถาม ทำไมใน Google Analytics ถึงมีการ Visualize ข้อมูลแบบนี้ , นำข้อมูลจากไหนมาแสดง และ Crackdown จากตัวเลขต่างๆที่เกิดขึ้นมาพิจารณาเพิ่มว่าอยากใช้มันต่อไปอย่างไร มันเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะครับที่ทำให้เราอยากที่จะศึกษามันเพิ่มจนสามารถก้าวเข้ามาในสายอาชีพนี้เลยก็ว่าได้  

ในประสบการณ์จากสายงานของพี่ มีคนผันตัวจากสาย Digital Marketing มาเป็น Data ก็เยอะครับ เท่าที่เห็นในมุมมองของผม คือต่อไปในอนาคตจะไม่มีแล้วครับว่าใครจะเกิดมาทำงานด้าน Data อย่างเดียว หรือทำด้าน Digital Marketing อย่างเดียว มันอาจจะเชยไปแล้วเพราะโลกมันหมุนไวมากนะครับ หากยังยึดติดอยู่ที่เรื่องเรื่องเดียวโลกมันคงไม่ค่อยสนุกว่าไหม? บนความเป็นจริงในองค์กรแทบจะทุกที่ก็ทำงานก็แบบ hybird เกือบหมดแล้วด้วยซ้ำ 

“ Never stop learning is the key to success ”

O – Data Analytics Manager

ในช่วงเริ่มต้น พี่เองก็ไม่ได้มาจากสาย Data แต่ถ้าเรามี Passion และความตั้งใจ โฟกัสที่ดีแน่วแน่และใจเย็นกับการเรียนรู้ เรียนรู้อย่างไรให้ลึกขึ้น รู้อย่างแท้จริง นำไปใช้ได้จริง ในช่วงแรกๆ ก็ค่อยๆ ตั้งคำถาม — หาคำตอบไปเรื่อยๆ ช่วงแรกอาจจะไม่ได้มองเห็นภาพรวมใหญ่ แต่พอถึงจุดนึงที่เราสามารถ Connect the Dot ได้ เราจะสามารถ Leverage หลายๆ อย่างได้ และสนุกมากขึ้นเองนะขอแค่ตั้งใจก็พอครับ 

Key success คือเราต้องลงมือทำ เรียนรู้เอาครับ ในยุคนี้ ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เราต้อง Learning as you go เรียนไป ล้มไป เรียนรู้ไป เอาสกิลเก่ามาใช้บ้าง เรียนรู้สกิลใหม่บ้าง มันถึงจะทันกับความเปลี่ยนแปลง 

สำหรับพี่เอง ใช้ความรู้ที่มีมาตลอด ผมคิดว่ายังรู้ไม่ถึง 50% เลย มันมี Gap ที่เราต้องเรียนรู้ไปเรื่อยๆอีกเยอะ อยากเรียนรุ้เพิ่มขึ้นอีกต้องทำตัวเป็นน้ำไม่เต็มแก้วตลอดเวลา เพราะการทำงานกับ Data คือการทำงานกับอนาคตจริงๆ  

ไม่มีทางที่เราจะเรียนรู้ได้ครบทุกเรื่องหรอก แต่สิ่งสำคัญคือไม่หยุดเรียนรู้นั่นคือหัวใจครับ 

สิ่งที่ประทับใจในการทำงานที่ Predictive 

การได้ทำงานกับคนเก่งๆ ทั้งคนรุ่นเดียวกันและกับน้องๆ พี่รู้สึกว่าคนใน Predictive มีความเก่งในเรื่องของการหาข้อได้เปรียบในการใช้เครื่องมือ เพื่อทำให้การทำงานระหว่างเรากับลูกค้ามียิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่หยิบเครื่องมือมาใช้เฉยๆ มีความ adaptive สูง และพยายามเอาใจใส่งานให้ได้ outcome ที่ Beyond Expectation เสมอ 

คนที่นี่ทำงานหนัก Dedicate และมี passion ในการทำงานสูงมาก เรารู้สึกว่าเราท้อไม่ได้เลย ถ้าในวันที่เราเหนื่อยเราท้อ เราหันกลับมาดูทีม น้องๆเรา ไม่เคยหยุดนิ่งเลย เป็นเสน่ห์เล็กๆ และกำลังใจชั้นดี ซึ่งคนที่นี่ทำงานจริง เล่นจริง เป็นลักษณะขององค์กรสมัยใหม่ ไม่เชยเลยนะ 

เวลามีอะไรใหม่ๆ ก็จะรีบมาทำ Proof of Concept (POC)ใหม่ๆ เสมอ ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องใหม่ๆ ตลอดเวลา เลยรู้สึกว่าบริษัทน่าจะเหมาะกับสไตล์เรา เพราะเราเป็นคนที่ไม่หยุดนิ่งในการเรียนรู้ ตัวบริษัทก็เป็นแบบนั้น และส่งเสริมให้พนักงานเรียนรู้อยู่เสมอ มี Knowledge มีคอร์สอะไรก็มาอัปเดทกัน เพื่อให้ได้ outcome ที่ดีที่สุดในการทำงานกับลูกค้า ส่วนตัวค่อนข้างประทับใจมากๆครับ 

สิ่งที่อยากฝากบอกคนที่สนใจทำงานในตำแหน่งนี้ 

สาย Data กำลังเป็นที่จับตามองมากๆในยุค 5.0 เพราะทุกธุรกิจก็จำเป็นต้องใช้ข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้องค์กรตัวเอง คำว่า Mar-tech ไม่ใช่ข้อจำกัดของคำว่า Nerd หรือเข้าถึงยากอีกต่อไป ปัจจุบันเริ่มมีการ Collaborate Marketing เข้ากับฝั่ง Technology ไปได้อีกไกลมากผมเชื่ออย่างนั้นนะครับ และมีอีกหลายธุรกิจเลยที่กำลังปรับตัวมาใช้และเก็บ Data มากขึ้น 

สำหรับพี่ๆ น้องๆคนไหน ที่กำลังสนใจงานด้าน Data ก็อยากให้ลองมา join กันดูได้นะครับ แต่ถ้าหากมีความรู้จากสายอาชีพ Marketing, Business ด้วยน่าจะเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ต่อยอดได้ง่ายขึ้น แต่ช่วงแรกๆ มันอาจจะยากไปบ้าง เพราะไม่มีการเริ่มต้นไหนที่ไม่ยากอยู่แล้ว การได้ลองเริ่มต้นทำ แม้ช่วงแรกจะผิด แต่ก็ไม่ใช้เรื่องน่าอายเลย มันจะน่าอายกว่า ถ้าเราไม่ได้ทำมันจริงๆ แล้วเราบอกว่าเราทำมันไม่ได้ครับ แต่วันที่เราคล่องขึ้น เราก็จะสนุกกันมันมากขึ้น ขอให้เรายังมี passion กับมันก็พอครับ   

สำหรับ Predictive ก็เป็นเหมือนโรงเรียนชั้นดี ที่เหมาะกับคนที่ชอบเรียนรู้ และอยากพัฒนาตัวเองเร็วๆ เพราะแต่ละโปรเจ็กต์ที่ได้ทำ จะมีทุก angle เลย ทำให้เราเรียนรู้ได้หลากหลายมุมมองมากขึ้นทำให้เราได้ Optimize สกิลตัวเองมากขึ้น ถ้าน้องมี Passion เพียงพอ พี่ว่าเราได้ร่วมงานกันแน่นอนครับ 

จบไปแล้วค่า กับการพูดคุยกับพี่โอ Data Analytics Manager ส่วนตัวได้ข้อคิดไปเยอะมากๆ เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจทำงานกับ Data ก็สมัครงานร่วมงานกันนะคะ 🙂