รวมการทำงานของทีมไว้ในที่เดียวด้วย Salesforce Cloud Computing

ปัญหาเหล่านี้กำลังกวนใจทีมขายอย่างเราอยู่ใช่ไหม​ ?

  • ไปออกบูธแล้วต้องวิ่งเข้าบริษัทอีกรอบ เพื่ออัพเดทข้อมูลลูกค้า แถมข้อมูลก็ไม่ได้แสดงผลในทันที ต้องรอหลายชั่วโมง หรือบางทีก็รอจนหมดวัน
  • เซลล์ไม่แอคทีฟเพราะไม่รู้ว่ามี lead เข้ามา
  • กว่าหัวหน้าจะรู้ว่าตัวเลขในใบเสนอราคาผิดก็สายเกินไป 
  • ไปทานข้าวกับลูกค้าก็ต้องพกโน๊ตบุ้คไปให้เกะกะ แทนที่จะใช้มือถือหรือแท็บเล็ตทำงานได้เลย 

หมดกังวลด้วยแอป Cloud แอปที่สามารถทำให้ทุกคนในทีมขายรวมถึงหัวหน้าทีมเข้าถึงข้อมูลทุกอย่างได้เพียงไม่กี่คลิก ทีมขายภาคสนามที่ใช้ CRM บน Cloud สามารถดูข้อมูลทุกอย่างได้แบบเรียลไทม์ ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปออฟฟิศเพื่ออัพเดทข้อมูลจากระบบส่วนกลางอีกต่อไป ส่วนผู้จัดการฝ่ายขายก็สามารถ track ดูสเตตัสการขายของเซลล์และลูกค้าแต่ละคนได้ตลอดเวลา รับรู้ถึงปัญหา และอนุมัติราคาได้ในทันที 

และทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องซื้อและจัดการฮาร์ดแวร์ และไม่ต้องติดตั้งและอัปเดตซอฟต์แวร์ นั่นเป็นเพราะฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต้องใช้คือความรับผิดชอบทั้งหมดของบริษัทระบบ Cloud ที่ใช้งานแอป บริษัทต่างๆ เช่น salesforce.com ที่มีประสบการณ์ในการบริหารจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ของพวกเขามาอย่างยาวนาน นั่นทำให้มั่นใจได้ว่าจะมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้ 

เราสามารถใช้แอปทุกชนิดใน Cloud

  • สร้างเอกสารและสเปรตชีตเพื่อทำงานร่วมกันด้วย Google Apps สำหรับธุรกิจ
  • ประชุมผ่านวิดีโอกับเพื่อนร่วมงานของคุณใน Skype
  • จัดการฟังก์ชันการขายและการบริการลูกค้าไปพร้อมๆกันกับกระบวนการทางธุรกิจที่สำคัญอื่นๆ ใน Salesforce Platform

สามารถสร้างได้แม้กระทั่งแอปโซเชียล แอปอุปกรณ์มือถือ และแอปสำหรับพนักงานแบบเรียลไทม์ของคุณเอง จากนั้นใช้แอปเหล่านั้นในคลาวด์ ซึ่งช่วยให้แอปพลิเคชันธุรกิจอย่าง Sales Cloud มีความคล่องตัวมากขึ้นและช่วยให้ทีมทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

Cloud เหมาะสมกับองค์กรหรือธุรกิจประเภทไหนบ้าง 

ด้วยระบบ Cloud ที่ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ Cloud โดยที่พวกเขาไม่รู้ตัวเลยด้วยซํ้า ความจริงแล้วเราอาจจะจินตนาการไม่ออกด้วยซํ้าว่าถ้าหากขาดระบบ Cloud ไปชีวิตจะเป็นอย่างไร เพราะหากไม่มีระบบ Cloud ก็จะไม่มี Facebook ไม่มี Twitter ไม่มี Gmail และไม่มี Spotify ชีวิตก็อาจจะยุ่งยากขึ้น

นอกจากนี้ระบบ Cloud ยังได้เปลี่ยนแปลงวิถีดำเนินธุรกิจด้วยเช่นกัน ในปัจจุบันองค์กรหลายล้านแห่งทั่วโลกต้องพึ่งพาบริการ Cloud เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่การสร้างเอกสารและการสำรองข้อมูลไปจนถึง โซเชียล CRM และบัญชีลูกค้า ไปจนถึงเกือบทุกแอปพลิเคชัน

  • บริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 25,000 คนใช้แอปหรือบริการบน Cloud เฉลี่ยอยู่ที่ 545 รายการ
  • ผู้คนกว่า 1,200 ล้านคนทั่วโลกใช้ Facebook
  • กว่าครึ่งของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งหมดต้องพึ่งพาบริการรับส่งอีเมลบน Cloud เช่น Gmail และ Yahoo! เพื่อส่งและรับข้อความของพวกเขา

ทำไมต้องใช้ Cloud

ในปัจจุบันการปรับใช้ระบบ Cloud เป็นไปอย่างรวดเร็วและเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก มาดูว่าทำไมเราถึงควรหันมาใช้ Cloud กัน

  • การปรับใช้อย่างรวดเร็ว

หากเราเคยมีส่วนเกี่ยวข้องในการปรับใช้แอปพลิเคชันใหม่ๆ เราจะรู้ว่ากระบวนการดังกล่าวอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีในการเตรียมความพร้อมและเริ่มใช้งาน แต่ด้วยแอปพลิเคชันบน Cloud เราสามารถตัดขั้นตอนที่ซับซ้อนนี้ออกไปได้ ในหลายๆกรณี เราสามารถลงชื่อเข้าใช้แล้วเริ่มต้นใช้งานแอปพลิเคชันได้ทันที แม้แต่แอปพลิเคชันขององค์กรขนาดใหญ่ก็สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ในเวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์

  • ไม่มีค่าใช้จ่ายล่วงหน้า

การปรับใช้แอปพลิเคชันใหม่ๆ อาจหมายถึงค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการซื้ออุปกรณ์ใหม่ รวมไปถึงต้นทุนค่าใบอนุญาต การรวมระบบ และต้นทุนค่าที่ปรึกษาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ด้วยซอฟต์แวร์ Cloud ต้นทุนค่าใช้จ่ายเหล่านี้จะลดลงอย่างมหาศาลหรืออาจสามารถตัดออกไปได้เลย เพียงแค่จ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนแทน และเปลี่ยนค่าใช้จ่ายที่มีนัยสำคัญเหล่านั้นให้เป็นค่าใช้จ่ายด้านการปฏิบัติการที่สามารถคาดการณ์ได้

  • ปรับขนาดได้ทันที

ด้วยแอปพลิเคชันบน Cloud เราสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนของผู้ใช้ได้ตามความต้องการที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา นั่นหมายความว่าเราจะจ่ายแค่เฉพาะสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ต้องกังวลว่างบประมาณที่มีจะไม่เพียงพออีกต่อไป

  • ปราศจากการบำรุงรักษา

การอัปเดตแพตช์ การอัปเกรด และการทดสอบแอปพลิเคชันอาจทำให้ฝ่าย IT เสียเวลาไปหลายวันในแต่ละเดือน แต่ด้วยแอปพลิเคชัน Cloud สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เราสามารถจัดการทุกสิ่งทุกอย่างได้ใน Cloud โดยไม่ต้องเสียเวลาในการทำงานในโปรเจกต์และนวัตกรรมใหม่ๆ

  • เข้าถึงได้จากทุกที่

แอปพลิเคชัน Cloud ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถเข้าถึงได้อย่างปลอดภัยจากทุกที่และจากอุปกรณ์ทุกเครื่อง

  • ความปลอดภัยที่เหนือกว่า

จากการสำรวจในปี 2010 พบว่าบริษัทต่างๆ ต้องสูญเสียแล็ปท็อปเฉลี่ยถึง 263 เครื่องในแต่ละปี และหากแล็ปท็อปเหล่านั้นมีข้อมูลประจำตัว การสูญเสียแต่ละครั้งก็จะมีผลกระทบด้านความปลอดภัยอย่างร้ายแรง แต่ด้วยแอปพลิเคชัน Cloud ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างปลอดภัยในระบบ Cloud

หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่สามารถพลิกเกมให้กับการดำเนินงานในทีมขายที่อาจซับซ้อน ให้กลับมาสะดวกสบาย ทำงานง่าย และมีประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยเป็นมา สามารถติดต่อ Predictive เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย และเรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นฟรี

Reference