แน่นอนว่า การมีส่วนร่วมของผู้คน (Engagement) คือ ตัวชี้วัดสำคัญที่บอกว่าเว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพเพียงพอดีแล้วหรือไม่ จากการประเมินพฤติกรรมการใช้งานว่าสามารถจับความสนใจผู้คนให้โฟกัสอยู่ที่เนื้อหาบนเพจได้นานมากน้อยเพียงใด
เดิมที Google ใช้ Bounce Rate ในการช่วยคนทำ SEO วิเคราะห์และประเมินประสิทธิภาพเว็บไซต์ เพราะบอกถึง อัตราของผู้ใช้ที่คลิกเข้ามาในหน้าเว็บไซต์เพียงหน้าเดียวและกดปิดโดยไม่มีส่วนร่วมใดๆ หรือคลิกลิงก์ไปหน้าอื่นๆ ต่อ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาต่างๆบนเว็บไซต์เพื่อให้เกิด Conversion
แต่เมื่อ Google Analytics หรือ Universal Analytics รูปแบบเดิมกำลังจะปรับเปลี่ยนไปสู่ Google Analytics 4 ค่า Metric เดิมอย่าง Bounce Rate ที่คนทำ SEO ต้องใช้วิเคราห์ประสิทธิภาพเว็บไซต์กันอยู่ประจำกำลังจะเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
ทำไม Bounce rate ถึงเปลี่ยนไปและมี Engagement rate เพิ่มมา
แม้ว่า Bounce Rate จะเคยช่วยสะท้อนถึงคุณภาพของเว็บไซต์ และเป็นอัตราที่อธิบายว่าทำไมเว็บไซต์ของเราถึงไม่เกิด Conversion เท่าที่คาดหวังไว้ และเปิดโอกาสให้เรามองหาจุดปรับปรุงเพื่อให้ผู้ใช้อยู่บนเว็บนานขึ้นได้ง่ายกว่าเดิม
แต่กระนั้น Google ก็มองว่าพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของผู้คนเปลี่ยนไป และ Bounce Rate ก็ไม่ตอบโจทย์การนำมาใช้วิเคราะห์การมีส่วนร่วมมากนัก รวมถึงไม่ครอบคลุมกับทุกประเภทเว็บไซต์ เช่นการเขียนบทความบนเว็บไซต์ที่การเข้ามาหน้าเดียวและคลิกออกนั้นนับเป็นเรื่องปกติมากๆ ทั้ง Bounce Rate เองก็มีข้อจำกัดเพราะบอกแค่อัตราที่คนไม่มีส่วนร่วม เป็นการชี้วัดผู้คนที่คลิกมาหน้าเดียวและไม่คลิกต่อ ซึ่งตรงกันข้ามกับ Engagement Rate ที่เจาะจงถึงอัตราผู้คนที่มีส่วนร่วมโดยเฉพาะ
เพราะที่จริงแล้วการคลิกเข้ามาหน้าเดียวแล้วกดปิดไม่ได้แปลว่าเนื้อหาเว็บไซต์นี้ไม่มีคุณภาพเสมอไป
Bounce Rate จะมีการวัดค่าเปลี่ยนไปอย่างไรใน GA4
Bounce Rate ไม่ได้หายไปเลยใน GA4 ซึ่ง Google มีวิธีการวัดค่าที่เปลี่ยนแปลงไป คือ Bounce Rate จะมีการคิดค่าจาก % ของ Session ที่ไม่มีส่วนร่วมใดๆ เช่น ผู้ใช้คลิกเข้ามาอ่านคอนเทนต์บนหน้าเว็บไม่ถึง 10 วินาทีและกดออก Session นี้จะนับเป็น Bounce โดยถือเป็นค่าตรงกันข้ามกับ Engagement
ผู้คนมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์แค่ไหน วัดอย่างไรใน GA4
เพราะการมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์คือหนึ่งสิ่งสำคัญที่บอกว่าเว็บไซต์ของเรามีประสิทธิภาพเพียงพอแล้วหรือยัง ซึ่ง Engagement Rate ที่เข้ามาใหม่ใน GA4 นี้เองคือสิ่งที่บอกอัตราของผู้คนว่ามีส่วนร่วมกับเนื้อหาบนเว็บไซต์มากน้อยแค่ไหน โดยมีพฤติกรรมเป็นตัวชี้วัดสำคัญ หากว่าใน 1 Session ที่คนคลิกเข้ามาอ่านเนื้อหาในหน้าเว็บนานกว่า 10 วินาที หรือ มีการคลิกอ่านดูหน้าอื่นๆอย่างน้อย 2 Pageviews หรือ ตอบสนองกับ Conversion Event ทั้งหมดนี้ถูกนับว่าเป็น Engagement
- อัตรา Engagement Rate ใน GA4 จึงคำนวณจากจำนวน Sessions ที่ผู้ใช้มีส่วนร่วมด้วย หารกับ จำนวน Sessions ทั้งหมด
- Engagement Rate = (Engaged Sessions) / (Total Sessions)
ค่า Engagement Rate ใน GA4 ดูไม่ดีเท่าไหร่ควรทำอย่างไร
หากว่าคำนวณออกมาแล้วเปอร์เซ็นต์ของคนที่สนใจกับเนื้อหาบนเว็บไซต์จริงๆ น้อยจน Engegement Rate ต่ำจนน่าใจหาย อาจเป็นจังหวะดีให้เราได้ลองใช้ฟังก์ชัน Reports และ Explorations ที่มีอยู่แล้วใน GA4 มาวิเคราะห์ดูว่า Engagement Rate ต่ำทั้งเว็บไซต์ หรือเฉพาะ Channels หรือ บางหน้าเว็บเท่านั้น เพื่อประเมินว่าเราควรปรับปรุง Technical ของเว็บไซต์หรือคิดกลยุทธ์ใหม่ในการพัฒนาเนื้อหาบนเว็บให้จับความสนใจและตรงกับความต้องการของผู้คนมากกว่าเดิม และ Optimize เนื้อหาของหน้าเว็บนั้นด้วยการทำ SEO เช่น
- ใส่ Heading Tag (H1/H2) เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ลำดับความสำคัญง่ายขึ้น
- ใส่ Internal Links เพื่อให้คลิกอ่านเพิ่มเติมเนื้อหาในหน้าอื่นๆ ได้ด้วย
- ปรับปรุงการแสดงผลของหน้าเว็บให้เหมาะกับการเปิดอ่านบนโทรศัพท์มือถือ (Mobile – Friendly)
- ผลิตคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ มีเนื้อหาละเอียดครบถ้วน อ่านเข้าใจ และ มีอ้างอิงที่เชื่อถือได้
เท่านี้คนทำ SEO ก็พอจะใช้ความแตกต่างของ Boune Rate และ Engagement Rate มาวิเคราะห์ได้แล้วว่าบนเว็บไซต์ของเรามีผู้คนสนใจอ่านเนื้อหาจริงๆ มากน้อยเพียงใดและควรเน้นจุดไหนเพื่อประหยัดเวลาและทุ่นแรงการพัฒนาเว็บไซต์สู่อันดับที่ดีกว่าเดิม
อ่านต่อเพิ่มเติม 7 สิ่งที่ไม่ควรทำถ้าไม่อยากให้เว็บไซต์ตกอันดับ
ที่มาข้อมูล Analytic Help
Get in touch
Let's work together!
"*" indicates required fields