SEO

SEO คืออะไร ทำไมคนทำเว็บไซต์ถึงต้องให้ความสำคัญ?

ความหมายของ SEO 

SEO (Search Engine Optimization) คือการเพิ่มประสิทธิภาพทางกลไกเพื่อเพิ่มโอกาสให้เข้าชมเว็บไซต์จากผู้คนที่กำลังค้นหาข้อมูลผ่านทางเครื่องมือค้นหา ซึ่งการทำ SEO ประกอบไปด้วยสองส่วนหลักสำคัญ คือการสร้างเนื้อหาและในทางเทคนิค โดยทั้งสองสิ่งนี้ต้องสอดคล้องไปกับความต้องการของเครื่องมือค้นหามากที่สุด หรืออาจสรุปได้ว่า SEO คือการปรับแต่งส่วนต่าง ๆ บนเว็บไซต์ให้มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อให้เกิดการเข้าถึงเว็บไซต์แบบออร์แกนิกได้มากที่สุดนั่นเอง 

การทำงานของ Search Engine 

แน่นอนว่าการทำ SEO เกิดขึ้นเพื่อให้คนค้นหาเราเจอ แต่ก่อนที่จะทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพได้ก็ต้องทำความเข้าใจในเครื่องมือค้นหาก่อน ซึ่งเครื่องมือค้นหาที่ทุกคนรู้จักดีก็คือ Google โดยการค้นหาก็เพียงแค่วางคำหรือข้อความลงบนช่องค้นหา ก็จะปรากฏผลลัพธ์ออกมามากมาย ดังนั้นแล้ว เมื่อเว็บไซต์มีการปรับปรุงให้เป็นมิตรต่อ Google มากขึ้น โอกาสที่จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเมื่อถูกค้นหาก็มีมากขึ้นด้วย

Google ใช้เกณฑ์อะไรในการพิจารณาผลลัพธ์ที่ดีที่สุด?

แต่ Google ใช้หลักอะไรในการพิจารณาว่าผลลัพธ์อันไหนดี? สำหรับการทำงานของ Algorithm บน Search Engine นั้นต้องใช้หลายอย่างมาประกอบกัน เพื่อที่เว็บไซต์นั้นจะได้รับการยอมรับจาก Google ว่าเป็นเว็บไซต์ที่ดีมีคุณภาพ และถือว่าเป็นผลลัพธ์เป็นประโยชน์ต่อการค้นหาจริง  ซึ่งหลักที่ใช้ในการพิจารณานั้นแบ่งเป็น 5 ข้อด้วยกัน คือ 

ความเกี่ยวข้องกับคำค้นหา

ข้อแรกคือเรื่องของความเกี่ยวข้องในเนื้อหาที่ต้องแมตช์กับคำค้นหาของผู้ใช้งาน เพราะคงไม่มีใครอยากเจอหน้าเว็บที่เกี่ยวกับรถยนต์เมื่อใช้คำค้นหาว่า ‘สูตรทำกะเพรา’ อย่างแน่นอน ดังนั้น เนื้อหาบนเว็บไซต์ควรจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหาอยู่เสมอ 

เนื้อหาที่มีความแตกต่าง

อย่าลืมว่าคำค้นหาเพียงคำเดียว แต่ผลลัพธ์ที่ถูกแสดงออกมาจากคำค้นหาเดียวอาจมากมายด้วยหน้าเว็บไซต์กว่าพันหรือหมื่นหน้าเลยทีเดียว ดังนั้นแล้วเนื้อหาที่มีเฉพาะเจาะจง เนื้อหาเชิงลึก หรือใช้ภาพประกอบที่แตกต่างจึงมีโอกาสที่จะถูกมองว่าเป็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า ทำให้มีโอกาสติดอันดับในหน้าแรกได้มากกว่า  

เนื้อหาที่เป็นประโยชน์

แตกต่างอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เพราะแม้ว่ากูเกิลจะเป็นเครื่องมือในการค้นหาผ่าน Algorithm  แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นมีไว้เพื่อให้คนอ่าน ดังนั้น Content ต่าง ๆ จึงต้องเป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์มากที่สุด โดย Google ได้ให้ความสำคัญของ ‘คุณภาพมากกว่าปริมาณ’ แม้ว่าจะไม่ได้อัปเดตบทความเป็นจำนวนมาก แต่หากมีเนื้อหาคุณภาพสูงและเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ก็มีโอกาสที่จะติดหน้าแรกได้เช่นกัน 

รูปแบบเว็บไซต์

รูปแบบและการทำงานของเว็บไซต์เป็นอีกสิ่งที่ Google จะใช้พิจารณาสำหรับจัดอันดับ ผลลัพธ์ที่ดีต้องสามารถเข้าถึงหน้าต่าง ๆ บนเว็บไซต์ได้ง่าย ใช้เวลาในการโหลดหน้าเว็บน้อย ทั้งนี้ก็เพื่อประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานของผู้ค้นหาด้วย 

ความน่าเชื่อถือ

สุดท้ายคือเรื่องความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ยิ่งมีการอ้างถึงเว็บไซต์จากแหล่งที่น่าเชื่อถืออื่น ๆ อย่างการทำ Backlink ยิ่งทำให้เว็บไซต์ถูกมองว่าน่าเชื่อถือมี Content ที่เป็นประโยชน์ได้มากขึ้น โอกาสที่จะเป็นผลลัพธ์ที่ดีบน Search Engine ก็ยิ่งง่าย

หลักการทำงานของ SEO

นอกจากการทำงานของ Search Engine แล้ว เพื่อให้เว็บไซต์ถูกค้นหาเจอได้แบบ Organic และติดอันดับได้บนเครื่องมือค้นจึงต้องอาศัยการทำ SEO เข้ามาช่วย ซึ่งในส่วนนี้ต้องใช้เครื่องมือในการเข้ามาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุงให้เป็นไปตามอัลกอริทึมของการจัดอันดับได้มากที่สุด จริงอยู่ที่ว่าคุณสามารถจ่ายเงิน ให้กับ Google เพื่อทำอันดับบนหน้าแรกได้ แต่มันก็มีความแตกต่างจากการทำ SEO เพื่อให้ได้ผลลัพธ์แบบออร์แกนิกอยู่เหมือนกัน 

ความแตกต่างของผลลัพธ์แบบ ‘ออร์แกนิก’ กับ ‘เสียเงิน’ 

เมื่อคุณเสียเงินค่าโฆษณาให้กับคำค้นหาที่ต้องการแล้ว โอกาสที่หน้าเว็บไซต์ของคุณจะติดอยู่ด้านบนสุดของการค้นหาก็เป็นไปได้มากขึ้น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเว็บไซต์ของคุณจะถูกคลิกเข้ามาอ่านหรือตัดสินใจซื้อสินค้าเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อมันถูกแสดงผลในแบบ ‘Sponsored’ นั่นทำให้ทั้งสองแบบมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร

ผลลัพธ์แบบออร์แกนิก

การแสดงผลลัพธ์แบบออร์แกนิกช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ได้มากกว่า เนื่องจาก Google ได้พิจารณาจากหลายปัจจัยในการจัดอันดับ และยังเป็นการแสดงผลลัพธ์ที่มีความยั่งยืน โดยเฉพาะเมื่ออัปเดตเว็บไซต์ และทำ SEO อยู่เสมอ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้จ่ายเงินค่าโฆษณาแต่เว็บไซต์ของคุณก็ยังมีโอกาสอยู่ด้านบนของการแสดงผลลัพธ์ได้ 

ผลลัพธ์แบบจ่ายเงิน

สำหรับผลลัพธ์ที่มาจากการเสียเงิน เว็บไซต์จะถูกแสดงในหน้าผลลัพธ์ที่บริเวณด้านบนสุดเสมอ แต่! ยิ่งเป็นคำค้นหาที่มีคู่แข่งมาก ยิ่งต้องเพิ่มจำนวนเงินในการแข่งขันที่มากขึ้นด้วย โดยการจ่ายเงินจะถูกคิดตามจำนวนคลิก หรือ PPC ดังนั้นแล้วแม้จะเสียเงินค่าโฆษณาแต่เนื้อหาบนเว็บไซต์เองก็ต้องเกี่ยวข้องกับคำค้นหาเหล่านั้นด้วย 

ส่วนจะเลือกแบบไหนในการทำอันดับให้เว็บไซต์ของคุณดี ขอแนะนำให้ลองอ่านบทความ SEO กับ SEM ต่างกันอย่างไร เพื่อประกอบการตัดสินใจ

ทำไมการทำ SEO ถึงมีความสำคัญ?

ก่อนอื่นให้ลองนึกภาพตามดูว่า หากคุณต้องการค้นหาข้อมูล หรือสินค้าสักอย่าง คุณจะค้นหาจากที่ไหน? เชื่อว่าส่วนใหญ่แล้วต้องเลือกใช้การค้นหาบน Internet กันอย่างแน่นอน และเครื่องมือค้นหาที่ใช้โดยส่วนใหญ่แล้วก็คือ Google, Bing, Yahoo และ Youtube นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ‘ทำไม SEO ถึงสำคัญ’ ยิ่งคุณเป็นแบรนด์ที่เกิดขึ้นใหม่ หรือมีคู่แข่งมาก การทำ SEO ที่ดีจะเป็นวิธีช่วยลดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาให้คุณได้มากเลยทีเดียว 

ยกตัวอย่างเช่น คุณเปิดบริษัทที่เกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ แล้วต้องการให้คนเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณด้วยคำค้นหาว่า ‘ติดตั้งแอร์ราคาถูก’ ซึ่งเป็นคำที่มีการค้นหาโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 1k-10k ต่อเดือน นั่นหมายความว่าโอกาสเป็นไปได้ที่คนจะเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณมีมากถึง 10,000 ครั้งต่อเดือน และหากต้องการให้เว็บไซต์แสดงผลลัพธ์ในด้านบนด้วยการจ่ายเงิน คุณอาจต้องเสียเงินค่าโฆษณาไม่น้อยกว่า 18.29 บาท/คลิก หรือตกเดือนละ 182,900 บาท 

ในทางกลับกัน หากคุณทำ SEO ที่ดีแล้ว เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสที่จะติดอันดับของหน้าค้นหาได้เช่นเดียวกัน และเป็นการติดอันดับแบบยั่งยืนโดยที่ไม่ต้องเสียเงินสำหรับค่าโฆษณาอีกด้วย นี่คือเหตุผลที่ SEO คือสิ่งสำคัญสำหรับการทำเว็บไซต์ 

วิเคราะห์ลูกค้าและคีย์เวิร์ด

ก่อนที่จะเริ่มทำ SEO อย่างจริงจัง สิ่งแรกที่ต้องวิเคราะห์ก็คือ ‘ลูกค้า’ และ ‘คีย์เวิร์ด’ นั่นเป็นเพราะหากคุณเข้าใจในแบรนด์ หรือตัวตนของลูกค้าจะช่วยให้เห็นภาพรวมว่าใครคือคนที่จะซื้อสินค้าหรือบริการจากคุณ เพื่อนำไปสู่การสร้างเนื้อหาผลิต Content ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น และสิ่งที่จะเชื่อมโยงระหว่างเว็บไซต์กับกลุ่มเป้าหมายได้ก็คือ ‘Keyword’ หรือคำค้นหานั่นเอง ดังนั้นก่อนสร้างคอนเทนต์ขึ้นมาสักชิ้นอย่าลืมให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ลูกค้าและคีย์เวิร์ดด้วย 

ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจของคุณคือร้านขายรองเท้าฟุตบอล ดังนั้น Keyword ที่คุณต้องมีก็คือคำว่า ‘รองเท้าฟุตบอล’ แต่ด้วยคู่แข่งที่มีอยู่มากมายในธุรกิจนี้ คุณอาจต้องเพิ่มคำค้นหาให้แตกต่างมากขึ้น เช่น 

  • รองเท้าฟุตบอล พร้อมส่ง
  • รองเท้าฟุตบอลหญ้าเทียม
  • รองเท้าฟุตบอล Adidas ล่าสุด 
  • รองเท้าฟุตบอล สำหรับเด็ก

นอกจากนี้ ไม่เพียงแค่การใช้คีย์เวิร์ดเพื่อส่งเสริมการขายรองเท้าฟุตบอลเพียงอย่างเดียว เพราะกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบในการเล่นฟุตบอลอาจค้นหาข้อมูลอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น 

  • เทคนิคการยิงประตูฟุตบอล
  • วิธีเลือกรองเท้าฟุตบอล
  • เทคนิคการเล่นฟุตบอลแบบมืออาชีพ

การมีเนื้อหาบนหน้าเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกัน และเชื่อมโยงระหว่างคำค้นหาหลักได้ ช่วยให้อัลกอริทึมมองว่าเป็นการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้มากขึ้น ทั้งนี้ในการค้นหาคีย์เวิร์ด หากคุณยังใหม่และไม่พร้อมเข้าสู่การแข่งขันในระดับสูงบนสังเวียน SEO แนะนำให้เริ่มต้นจากการใช้ Long-Tail Keywords ในช่วงแรกก่อน โดยสามารถใช้เครื่องมือต่อไปนี้ในการช่วยวิเคราะห์และค้นหา Keyword ได้ 

  • SEMRush
  • KeywordTool.io
  • Moz Keyword Explorer
  • Google Keyword Planner

SEO ต้องทำอะไรบ้าง?

หลังจากที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และมีคีย์เวิร์ดสำหรับใช้สร้าง Content แล้ว สิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้คือการปรับโครงสร้างส่วนต่าง ๆ บนเว็บไซต์ให้เป็นไปตามความต้องการ Search Engine ซึ่งเป็นขั้นตอนของการทำ SEO โดยสิ่งต้องทำ มีดังนี้ 

1. เพิ่มประสิทธิภาพให้กับเนื้อหา

เนื้อหาบนเว็บไซต์ที่ดีตามหลัก SEO ต้องเป็นเนื้อหาที่มีความเฉพาะเจาะจง มีรายละเอียดในเชิงลึก และเป็นเนื้อหาที่แตกต่างจากผลลัพธ์อื่น ๆ และในการสร้างเนื้อหานั้นควรมีการอ้างอิงที่มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือบ้าง เพื่อให้ Search Engine เข้าใจว่าเนื้อหานั้นน่าเชื่อถือ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน ทั้งนี้ควรมีการแทรกภาพประกอบ หรือวิดีโอในเนื้อหาด้วย 

2. On-Page SEO

การจัดการหลังบ้านบนเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่า On-Page เป็นวิธีทำ SEO ที่ต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์โครงสร้างต่าง ๆ เช่น Title Tag, URL, Meta Description การตรวจสอบความเหมาะสมของจำนวนคำ Keyword ที่ปรากฏบนส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ จำนวนคีย์เวิร์ดที่ใช้ในบทความ การเขียนแบ่งความสำคัญด้วย Headline การปรับขนาดภาพให้เหมาะสมโดยมีการตั้งชื่อภาพ และใส่ Alt text ให้กับรูปภาพ 

นอกจากนี้การทำ On-Page ยังต้องดูเรื่องการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ด้วย เพราะเว็บไซต์ที่ดูง่าย สบายตา ฟังก์ชันใช้งานง่าย มองเห็นหมวดหมู่ชัดเจนจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานได้ 

3. Off-Page SEO

การทำ Off-Page SEO คือการทำให้เว็บไซต์อื่น ๆ พูดถึงเว็บไซต์ของคุณเรียกว่าการทำ Link Building หรือ Backlink โดยวิธีนี้เป็นหนึ่งในวิธีทำ SEO ที่มีผลต่ออัลกอริทึมของ Google พอสมควร เพราะยิ่งเว็บไซต์ที่กล่าวถึงเว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดี และมีความน่าเชื่อถือมากแค่ไหนก็ยิ่งส่งผลต่อ PageRank ของเว็บไซต์คุณได้มากขึ้น

4. Technical SEO

สำหรับเรื่องเชิงเทคนิค SEO นั้นต้องใช้ความชำนาญและมีประสบการณ์มาบ้าง เพราะต้องคอยวิเคราะห์ส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์จาก Tools หลายตัวและอาจต้องใช้ ‘การทดลอง’ ในบางครั้ง ทั้งนี้การวิเคราะห์ในเชิงเทคนิคเบื้องต้นจะช่วยให้รู้ว่า เว็บไซต์ของคุณมีการเข้าถึงมากน้อยแค่ไหน ทั้งจำนวนคลิก การกดลิงก์เชื่อมโยงภายในเว็บไซต์ และอีกมากมาย 

ในด้านเทคนิค SEO พื้นฐานแล้วอาจเริ่มจากการปรับโครงสร้างของ URL ที่เป็นมิตรกับ SEO การเพิ่มประสิทธิภาพด้าน PageSpeed การใช้ HTTPS สำหรับเว็บไซต์ การปรับแต่งโครงสร้างบนเว็บไซต์ให้มีการเชื่อมโยงภายในอย่างเป็นระเบียบ (Website Structure) และที่สำคัญคือการปรับให้เหมาะกับการใช้บนมือถือ หรือ Mobile Friendly ทั้งนี้อย่าลืมติดตามผลลัพธ์ของเว็บไซต์หลังทำ SEO อยู่เสมอด้วย 

5. Update SEO Trends

นอกจากเรื่องของเทคนิคการทำ SEO ที่ต้องใช้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีแล้ว การทำ SEO ยังต้องคอยอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอด้วย ไม่ว่าจะเป็น Plug-in ที่ต้องใช้ หรือ Tools ใหม่ ๆ สำหรับใช้ในการวิเคราะห์เว็บไซต์ นอกจากนี้ต้องติดตามเทรนด์การใช้เครื่องมือค้นหาของผู้คนด้วย เช่น ในปัจจุบันมีการใช้ Ai ในการค้นหา หรือการค้นหาด้วยเสียง การค้นหาด้วยรูปภาพ ซึ่งล้วนเป็นสิ่งเหล่า SEO Specialist ต้องให้ความสำคัญ เพื่อนำมาปรับใช้ให้เข้ากับเทคนิคของแต่ละคนและผลลัพธ์ในการเอาชนะคู่แข่ง

สรุปความสำคัญของการทำ SEO 

จากทั้งหมดเชื่อว่าหลายคนคงเห็นความสำคัญของ SEO แล้ว เพราะนี่คือสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักได้มากขึ้นบนโลกออนไลน์ แต่ทั้งนี้ก็ต้องผ่านขั้นตอนและกระบวนการของการทำ SEO กันอยู่พอสมควร ซึ่งถ้ามีครบถ้วนในทุกปัจจัยที่เราเขียนมาทั้งหมดนี้ รับรองว่าผลลัพธ์ที่เว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับบน Search Engine ไม่ใช่เรื่องยากแน่นอน 

สำหรับใครที่อยากเริ่มต้นทำ SEO แต่ยังไม่มีประสบการณ์ หรือลองทำแล้วยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดี Predictive เรามีทีมงานมืออาชีพที่พร้อมใหัคำปรึกษาเพื่อประเมินคุณภาพเว็บไซต์ แนะนำโครงสร้างที่เหมาะสม และให้ความรู้ด้าน SEO เพื่อโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับเว็บไซต์ธุรกิจของคุณ 

สอบถามเราได้ทันทีเพียงคลิก ติดต่อที่นี่

Get in touch

Let's work together!

"*" indicates required fields

Name*
Please let us know what's on your mind. Have a question for us? Ask away.