ข้อผิดพลาดในการทำ UTM ที่ทำให้ข้อมูลที่ได้ไม่ตรง

UTM คืออะไร ? 

UTM ย่อมาจาก Urchin Tracking Modules เป็นตัวช่วยที่ช่วยดู Traffic ที่เข้ามาจากเว็บไซต์นั้นมาจากช่องทางไหนบ้าง เช่น จากการ ยิง Facebook Ads , SEO , Email Marketing 

เพื่อวิเคราะห์ผลลัพธ์ทางการตลาดว่าช่องทางไหนมีประสิทธิภาพในการ Drive คนมาเว็บไซต์มากที่สุด ซึ่งเราสามารถดูข้อมูลของ Traffic ได้จาก Google Analytics ใน Report : Acquisition ค่ะ

ประโยชน์ของการใช้ UTM ?

ทำให้ Track ข้อมูลของ Traffic ได้ในเชิงลึก และละเอียดมากขึ้นโดยการระบุข้อมูล link หรือที่มาของ Traffic ผ่าน parameters 5 ตัว ได้แก่ Source, Medium, Campaign, Term, Content  

ยกตัวอย่างเช่น 

Source = facebook,

Medium = facebookVideo,

Campaign = Midyear_sale

Term = n/a

Content =  women_mom

ตัวอย่างเช่น ระบุนื้อหา และรูปแบบของ Ads ไว้ใน Term หรือ Content ก็จะช่วยให้เราสามารถดูข้อมูล traffic source ได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ธุรกิจสามารถวัดผลประสิทธิภาพของแต่ละช่องทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สามารถวางแผน Budget ต่อไปได้แม่นยำยิ่งขึ้น 

การนำ UTM ไปใช้แบบผิดๆ และผลเสียที่เกิดขึ้น

มีหลายๆ คน เข้าใจการนำ UTM ไปใช้แบบผิด ๆ โดยนำ ลิงก์ UTM ไปติดบนปุ่มเว็บไซต์ 

เช่น ปุ่ม Home หรือแม้กระทั่ง ปุ่ม Call To Action ในหน้า Landing Page เพราะเข้าใจว่าจะช่วย Track ข้อมูลได้ลงลึกขึ้นว่า Traffic ของแต่ละหน้าเว็บไซต์นั้นมาจากอะไร เช่น มาจากการกดปุ่ม Product บน Tab เมนู ในหน้า Landing Page A นะ

แต่การติด UTM บนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มบน Tab Menu หรือลิงก์ในบทความนั้นเป็นสิ่งที่ผิดและควรแก้โดยด่วน ‼ เพราะมีผลเสียตามมา ยกตัวอย่างเคสที่ไม่ควรทำตาม  

  • ติดลิงก์ UTM ในปุ่ม Call To Action [ติดต่อเรา] ของคอนเทนท์ภายในเว็บไซต์ 
  • ติดลิงก์ UTM บนแท็บเมนูในหน้าเว็บไซต์ เช่น ปุ่ม Our Service , Contact us เป็นต้น 
  • กรณีอื่นๆ ที่ติดลิงก์ UTM ในเว็บไซต์

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ 

  • ระบบ Google Analytics จะนับ Session ใหม่ ทำให้ข้อมูล Session เยอะเกินความเป็นจริง 
  • การนับ session ใหม่ ทำให้เราไม่เห็น full journey ของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์เพราะ session โดนตัดกลางทาง ทำให้ไม่เข้าใจ Insight ของพฤติกรรมการใช้งานที่เกิดขึ้นจริง ยกตัวอย่างเช่น ตอนแรกนักการตลาดก็มีการติด UTM และนำลิงก์เว็บไซต์ไปประชาสัมพันธ์ผ่าน Email Marketing เมื่อลูกค้าเข้ามาบนเว็บไซต์ หากกดปุ่ม Call to Action บนเว็บไซต์ที่มีการติด UTM อีกรอบ ระบบก็จะนับ Session ใหม่ และทำให้ธุรกิจไม่เข้าใจพฤติกรรมแบบครบลูปจากลูกค้าคนนั้นๆ ที่มาจากการทำ Email Marketing นั้นเอง 
  • ทำให้ข้อมูล Channel ไม่ตรง ไม่สามารถวัดผลประสิทธิภาพของแต่ละช่องทางได้แม่นยำ 

สรุปการใช้ UTM ที่ถูกต้อง

ใช้ UTM ก็ต่อเมื่อเราจะเอาเว็บไซต์ของเราไปโปรโมทตามช่องทางต่างๆ เช่น Email , Facebook Ads , แปะที่ Banner ของเว็บไซต์พาร์ทเนอร์ เป็นต้น และห้าม! นำลิงก์ UTM ไปใช้ลิงก์ปุ่มต่างๆ บนเว็บไซต์เพราะจะทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถติดต่อทาง Predictive ได้เลยค่ะ เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Data และ Customer Experience กว่า 9 ปี และยังเป็น Google Marketing Platform Sales Partner, Google Cloud Partner และ Salesforce Partner อีกด้วย 

Get in touch

Let's work together!

"*" indicates required fields

Name*
Please let us know what's on your mind. Have a question for us? Ask away.