Marketing

ความแตกต่างของ CRM ในธุรกิจ B2B กับ B2C

ความแตกต่างของ CRM ในธุรกิจ B2B กับ B2C

ก่อนอื่นต้องรู้จุดประสงค์ขของการทำ CRM ก่อน ซึ่งหลักๆแล้วมีอยู่ 3 จุดประสงค์ด้วยกัน ได้แก่ จุดประสงค์ของการทำ CRM CRM ในธุรกิจ B2B การทำธุรกิจกับลูกค้าองค์กร จะเน้นไปที่ “จุดประสงค์ในการปิดการขาย” เป็นหลัก ไม่ได้เน้นไปที่การมองเห็น หรือการเข้าถึงจำนวนมาก เพราะส่วนมากแล้วโอกาสจะเกิดจากการที่เซลล์เข้าไปแนะนำตัว ทำความรู้จัก แต่จะปิดดีลได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการคุยกันแบบ one-on-one ไม่มีรูปแบบที่ตายตัว เพราะลูกค้าแต่ละองค์กรก็มีความต้องการที่แตกต่างกันออกไปตามรูปแบบกิจการของพวกเขาอยู่แล้ว และการมีระบบ CRM จะช่วยเรื่องการ Retention ที่จะช่วยเราประหยัดงบการตลาดได้อีกด้วย ส่วน “จุดประสงค์ทางการตลาด” ก็เป็นเรื่องที่รองลงมาที่จะช่วยให้เรา Maintain ลูกค้า Account นั้นๆให้อยู่กับเราต่อไปผ่านการ Up-Selling  ในขณะที่ “จุดประสงค์ทางการบริการ” ถือเป็นเรื่องที่อาจจะไม่สำคัญเท่าจุดประสงค์อื่นๆ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มักจะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญอยู่แล้ว เมื่อเกิดปัญหาต่างๆขึ้น ลูกค้ามักจะจัดการได้เองโดยการใช้ Internal Resource ที่สามารถติดต่อประสานงานได้สะดวกกว่าติดต่อ support แถมยังไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย Predictive Tips: เราขอแนะนำให้แบ่งการจัดการกับ Lead เป็น 3 ประเภท …

ความแตกต่างของ CRM ในธุรกิจ B2B กับ B2C Read More »

“สู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วย E-Commerce” แต่ไม่เคยมีใครบอกเลยว่า “ถ้า E-Commerce เกิดวิกฤตแล้วเราจะสู้ด้วยอะไรดี”

“สู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วย E-Commerce” แต่ไม่เคยมีใครบอกเลยว่า “ถ้า E-Commerce เกิดวิกฤตแล้วเราจะสู้ด้วยอะไรดี”

อย่างที่เราได้เคยพูดไปแล้วในคอนเทนต์ “ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา E-commerce โตช้าลงอย่างน่าตกใจ หรือว่ายุคทองของ E-commerce ได้ผ่านไปแล้ว ?” จากข้อมูลที่อยู่ในคอนเทนต์นั้นจะเห็นได้ว่า อัตราการเติบโตของ E-commerce โตช้าลงอย่างน่าตกใจในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา วันนี้เราจะมาเสนออีกหนึ่งวิธีการแก้ปัญหา 1. อย่ารวมไข่ไว้ในตระกร้าใบเดียว หากเปรียบเทียบว่าแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ E-commerce ต่างๆ (Shopee, Lazada, etc.) เป็นตระกร้าที่เราเอาของไปวางขาย เราต้องอย่าลืมว่าตระกร้าพวกนั้นไม่ได้อยู่ในบ้านของเรานะครับ เจ้าของตัวจริงสามารถขอตระกร้าคืนจากคุณได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น อย่าวางของไว้ที่เดียว กระจายความเสี่ยงโดยการเอาของไปวางไว้ที่เว็บไซต์/แอปพลิเคชั่น/แพลตฟอร์มอื่นๆด้วยนะครับ 2. เลิกฝากตระกร้าไว้ในบ้านคนอื่น ต่อไปเมื่อเรามีตระกร้าหลายใบไว้วางของแล้ว ต้องอย่าลืมที่จะสร้างบ้านไว้วางตระกร้าของตัวเองด้วย ซึ่งบ้านที่ที่เราพูดถึงนี้หมายถึงเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของตัวเอง ที่ๆเราสามารถขยับตัวได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะดูได้ว่าลูกค้าเข้าบ้านเรามา แล้วไปเลือกของในตระกร้าไหนบ้าง และซื้อสินค้าจากตระกร้าไหนบ้าง นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้เพื่อมาวิเคราะห์ และนำไปทำ Personalized Campaign ให้ตรงใจลูกค้าแต่ละคนมากยิ่งขึ้นได้อีกด้วย ตลอดไปจนถึงการทำ Loyalty Program ต่างๆที่เราสามารถออกแบบได้เอง ตามจุดประสงค์ที่เราตั้งขึ้นมาเอง 3. สร้างตระกร้าหลายใบในบ้านของตัวเอง นอกจากจะมีบ้านของตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมที่จะสร้างตระกร้าหลายๆใบไว้ด้วยนะครับ ซึ่งตระกร้าที่เราพูดถึงนี้ …

“สู้วิกฤตเศรษฐกิจด้วย E-Commerce” แต่ไม่เคยมีใครบอกเลยว่า “ถ้า E-Commerce เกิดวิกฤตแล้วเราจะสู้ด้วยอะไรดี” Read More »

sell the benefits not the features

Sell the Benefits not the Features: ใช้ Data ที่มี ให้เป็นการขายที่ลูกค้าปฏิเสธไม่ได้

ความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่องค์กรจะต้องรู้และเข้าใจ เพื่อให้ทั้งองค์กรสามารถตอบสนองต่อความต้องการนั้นได้อย่างตรงจุด และสร้างความประทับใจให้ลูกค้าเกิดการซื้อซ้ำและบอกต่ออยู่เรื่อยๆ จนกลายเป็น Loyalty Customer ในที่สุด ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่าการที่เราจะเป็นที่หนึ่งในใจของใครสักคน เหตุผลหลักๆเลยเป็นเพราะเรารู้ใจและเข้าใจคนๆนั้น พร้อมทั้งสามารถแก้ปัญหาให้เขาได้นั่นเอง แล้วจะรู้ใจหรือเข้าใจเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาได้อย่างไร มาดูกันในคอนเทนต์นี้ได้เลยครับ สิ่งที่องค์กรจะต้องตอบคำถามตัวเองให้ได้ Benefits VS. Feature ต่างกันอย่างไร ก่อนอื่นต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Benefits และ Feature เสียก่อน ยกตัวอย่างเช่น หากสินค้าที่คุณขายคือกระเป๋า ตัวอย่าง Feature ที่แบรนด์ขาย : ตัวอย่าง Benefits ที่ลูกค้าตัดสินใจซื้อ:  จากตัวอย่างจะเห็นได้ว่า 4 Features สามารถมีได้ถึง 9 Benefits ด้วยกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว 1 feature สามารถมีได้ถึง 100 benefits เลยทีเดียว เพราะจาก segmentation ทั้งหมดที่เรามีนั้นเป็นคนที่มี Preferences ต่างกัน และมีปัญหาไม่เหมือนกัน และสินค้า/บริการชิ้นเดียวกันนี้ สามารถเป็นที่ต้องการของคนหลายกลุ่มได้ เช่น คนที่ไม่อยากปวดหลัง …

Sell the Benefits not the Features: ใช้ Data ที่มี ให้เป็นการขายที่ลูกค้าปฏิเสธไม่ได้ Read More »

safari 17 beta tracking facts

รับมือกับการ Tracking ใน Private mode บน  Safari 17 Beta

นักการตลาดหลายๆคนอาจจะทำงานยากขึ้นในยุคที่ User-Privacy ต้องมาเป็นอันดับ 1 และด้วย Safari 17 beta จาก Apple ที่ขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอยู่แล้ว ก็ได้ออก Feature ใหม่ที่ดูจะเข้าใจยากเสียจริงๆ นั่นก็คือ ”การบล็อค parameter” แต่ถ้า Block Parameter แล้ว Digital marketing จะทำงานยังไง? วันนี้เราจะมาอธิบายกลไกลการเก็บข้อมูลแบบใหม่นี้ พร้อมทั้งวิธีรับมือให้ทุกคนกันครับ ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า Parameter มีกี่แบบในมุมมองของ Apple ซึ่ง Apple ก็พุ่งเป้าไปที่ตัว Custom Tracking นี้แหละครับ  Parameters ที่จะไม่ถูก Tracking ใน Private mode ของ Safari 17 Beta Parameters ที่จะยังคง Tracking ตามปกติใน Private mode ของ Safari 17 …

รับมือกับการ Tracking ใน Private mode บน  Safari 17 Beta Read More »

7 ปัจจัยสำคัญที่ถูกมองข้ามเสมอ เมื่อต้องทำการตลาด

7 ปัจจัยสำคัญที่ถูกมองข้ามเสมอ เมื่อต้องทำการตลาด

คุณอาจจะเคยได้ยินนักการตลาดหรือ social media manager พูดว่า “โพสเวลานี้สิดี”“ใช้สีและฟอนท์แบบนี้สิ จะได้ดึงดูดคน”“เราอาจจะต้องปรับคอนเทนต์ให้เข้ากับ Algorithm สักหน่อยในช่วงนี้” แต่จริงๆแล้วอะไรคือสิ่งที่ทำให้การทำการตลาดสำเร็จหรือไม่กันแน่ ช่วงเวลาในการโพส หรือสี/ฟอนท์ ที่ใช้ก็เป็นเพียงปัจจัยเล็กๆเท่านั้น วันนี้เราจะมาพูดถึง 7 ปัจจัยหลักที่จะทำให้การทำการตลาดของคุณเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ 1.) Sweet Spot หากเรามองภาพ Performance : Effort ในการทำการตลาดเป็น Bell Curve ที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนตามภาพดังนี้ 2.) 7 Marketing Rules ลองคิดดูว่าตอนที่ลูกค้า “ตัดสินใจซื้ออะไรสักอย่าง” จนถึงตอนที่ “เกิดการซื้อจริงๆ” พวกเขาต้องการ 7 Touchpoints ทั้งผั่ง online และ Offline ซึ่งหมายถึง – 7 Engagements– 7 Interactions อาจจะเป็นการยิง Ads : SEM / …

7 ปัจจัยสำคัญที่ถูกมองข้ามเสมอ เมื่อต้องทำการตลาด Read More »

Data-Driven Strategy เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปิดคลินิกเสริมความงาม

Data-Driven Strategy เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปิดคลินิกเสริมความงาม

ปัญหาคือคลินิกหลายๆแห่งมักจะมองข้ามลูกค้าหรือคนไข้ที่เข้ามาที่คลินิก (ทั้งเข้ามาที่คลินิก หรือเว็บไซต์ของคลินิก) แต่ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือใช้บริการ และกลับไปให้ความสำคัญในการหาคนใหม่ๆให้เข้ามารู้จักคลินิกมายิ่งขึ้น ทำให้ค่าโฆษณาถูกใช้ไปในขั้นตอนนี้ค่อนข้างสูง ถ้ามองตาม Marketing Funnel ในภาพประกอบด้านล่างแล้ว หลายๆคลินิกมักจะเชื่อว่าตัวเลข 2-5% ในช่อง Conversion จะไม่สามารถเพิ่มได้อีก จึงเน้นไปที่การเพิ่มจำนวนคนที่จะเข้ามา Awareness แทน เพราะหากคนรู้จัก (Awared) ก็จะส่งผลให้จำนวนคนใน 2-5% นั้นมากขึ้นตามไปด้วย เราจึงเห็นอยู่บ่อยครั้งว่าธุรกิจเสริมความงามมักจะมุ่งเน้นไปที่การยิงแอดให้คนเข้ามารู้จักคลินิกเยอะๆ พร้อมกับ Up selling หรือการเพิ่มยอดขายในลูกค้าแต่ละคนให้มาก โดยลืมไปว่า กลุ่มคนที่อยู่ใน Stage Awareness และ Consideration ก็มีโอกาสสูงมากที่จะมาเป็นคนไข้ในคลินิกเราเหมือนกัน และจะดีกว่าไหม ถ้าเราสามารถเพิ่มตัวเลขจาก 2-5% ให้สูงขึ้นจากการใช้ First Party Data ก่อนที่เราจะเข้าสู่ Use-case ของธุรกิจเสริมความงาม เราอยากอธิบายให้ทุกคนเข้าใจและเห็นความสำคัญของ Data Strategy เสียก่อน ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลหรือ Data Driven company เป็นบริษัทหรือธุรกิจที่ใช้ข้อมูลที่มีมาสร้างประโยชน์เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดยข้อมูลที่มีหลากหลายรูปแบบให้แต่ละธุรกิจเลือกใช้ …

Data-Driven Strategy เรื่องที่ต้องรู้ก่อนเปิดคลินิกเสริมความงาม Read More »

First Party Data คืออะไร สำคัญกับธุรกิจอย่างไร ?

First Party Data คืออะไร สำคัญกับธุรกิจอย่างไร ?

การที่ธุรกิจของเราจะเติบโตได้นั้น เริ่มมาจากการเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง ทั้งในด้านพฤติกรรม ความต้องการ ความคาดหวังของลูกค้า หรือเรียกเป็นภาพใหญ่ว่า Customer Insight  และลูกค้าแต่ละธุรกิจก็ไม่ได้มี Insight ที่เหมือนกัน หรือแม้แต่ Customer Profiling ก็ด้วย เพราะทั้งลูกค้าและตัวธุรกิจเองก็มีจุดประสงค์ที่ต่างกัน เพราะฉะนั้นแล้วเราต้องวางแผนและเข้าใจในวิธีการจัดเก็บข้อมูลเสียก่อน เพื่อให้การเก็บข้อมูลครั้งนี้ สามารถนำข้อมูลทั้งหมดไปใช้ให้เกิดประโยนช์ได้สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการลด ROAS (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับUse-case การนำ Audience จาก Google Analytics ไปใช้งานใน Google Ads (SEM)), ปรับแต่ง Customer Journey, ออกแบบ Personalized Marketing Campaign แต่การเก็บข้อมูลครั้งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับว่า 1st Party Data ที่คุณเก็บมานั้น สามารถเชื่อมต่อถึงกันได้หรือไม่ อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นการเชื่อมต่อข้อมูล Online และ Offline Cookieless World แล้วทำไมยังต้องเก็บ Data อยู่ ? …

First Party Data คืออะไร สำคัญกับธุรกิจอย่างไร ? Read More »

Google Analytics 4 เพิ่มรายได้ และลดรายจ่ายไปพร้อมๆกัน

Google Analytics 4 เพิ่มรายได้ และลดรายจ่ายไปพร้อมๆกัน

หลายๆคนที่ใช้ Google Analytics 4 (GA4) อยู่ น่าจะอยากรู้ว่า หลังจากที่เรารวบรวมข้อมูล ทั้งจาก Website + Application และ Online + Offline แล้วนั้น นอกจากการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เราจะใช้ Google Analytics 4 ทำอะไรได้อีกเพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ วันนี้ Predictive จะมาเล่าให้ฟัง ถึงวิธีการที่จะสร้าง Impact ให้กับ Marketing Strategy ของคุณอย่างมหาศาล นั่นคือการที่คุณสามารถนำ User Behavior และ demographic มาสร้าง Campaign, Segmentation และ Targeting ได้อย่างแม่นยำสุดๆ โดยวิธีการ Export Audiences จาก Google Analytics 4 ไปยัง Google Ads พร้อมทั้งส่งมอบเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน ดึงความสนใจของผู้ใช้งานหรือลูกค้า …

Google Analytics 4 เพิ่มรายได้ และลดรายจ่ายไปพร้อมๆกัน Read More »

ทำความเข้าใจกับ Metrics หลักใน Google Analytics 4 Report

การทำความเข้าใจกับ Metrics และ Report ใน Google Analytics 4 (GA4) ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจจะใช้ในการตัดสินใจเพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจ และด้วย Metrics ใหม่ๆที่ GA4 ใช้เพื่อให้เราที่เป็นเจ้าของธุรกิจหรือเว็บไซต์เข้าใจถึงพฤติกรรมและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานหรือลูกค้ามากยิ่งขึ้น (User Behavior and Engagement) ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการปรับกลยุทธ์การสื่อสารให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น Metrics ที่สำคัญใน GA4 มีอะไรบ้าง และต่างจาก Universal Analytics อย่างไร ใน GA4 มี Metrics หลักได้แก่  “Engaged sessions” ซึ่งจะติดตาม User Interactions โดยที่ Session ที่ GA4 Setup default มาให้นั้นจะเริ่มนับตั้งแต่วินาทีแรกที่ผู้ใช้งานเข้ามาที่หน้าเว็บ จนถึง 30 นาทีหลังจากที่ user ไม่มี Activity ใดใด นั่นหมายความว่า …

ทำความเข้าใจกับ Metrics หลักใน Google Analytics 4 Report Read More »

Google Analytics 4: Data-Driven Insights สำหรับธุรกิจ

ในโลกดิจิทัลทุกวันนี้ ข้อมูลมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากในการขับเคลื่อนการตัดสินใจทางธุรกิจ และเครื่องมือหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยคุณได้เป็นอย่างดีก็คือ Google Analytics 4 ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับวิเคราะห์เว็บไซต์ ที่เต็มไปด้วยฟีเจอร์มากมายที่จะช่วยให้คุณนำ Insight ของผู้ใช้งานมาใช้กับธุรกิจได้ ซึ่งในคอนเทนต์นี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่า Google Analytics 4 จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆนำข้อมูลมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร Google Analytics 4 คืออะไร และต่างจากเวอร์ชั่นก่อนอย่างไร Google Analytics 4 ได้พัฒนามาจาก GA ตัวก่อนหน้าโดยใช้ Event-Based Data Model ที่จะช่วยให้ธุรกิจต่างๆสามารถติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยวิธีการที่จะวัดผลนี้จะให้ตัวธุรกิจเห็นภาพผู้ใช้งานหรือลูกค้าแบบองค์รวมมากยิ่งขึ้น เพราะมีการเชื่อมต่อข้อมูลจากหลากหลายอุปกรณ์และแพลตฟอร์มเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น Mobile, Desktop, Website หรือ Application ซึ่งการเห็นภาพทั้งหมดนี้จะช่วยให้ธุรกิจหรือแบรนด์สามารถเห็นภาพรวมของผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี และจะนำไปสู่การตัดสินใจที่แม่นยำยิ่งขึ้น ประโยชน์หลักของการใช้ Google Analytics 4 สำหรับธุรกิจคืออะไร? การติดตั้ง Google Analytics 4 มีประโยชน์กับธุรกิจมากมาย เราจะขอยกตัวอย่างที่ทุกคนน่าจะเห็นภาพและเข้าใจได้ง่ายดังนี้นะครับ:  Advanced insights ช่วยให้ธุรกิจจะสามารถเข้าถึงข้อมูล User …

Google Analytics 4: Data-Driven Insights สำหรับธุรกิจ Read More »