Case Study: GA4 เพิ่มยอดสั่งซื้อในแอป McDonald ฮ่องกง มากถึง 550%

ในช่วงที่โควิด-19ระบาด พฤติกรรมการรับประทานอาหารก็เปลี่ยนไป จำนวนการสั่งซื้อแบบเดินเข้าร้านลดน้อยลง แต่การสั่งซื้อทางออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ผู้บริโภคมองว่ามันค่อนข้างยากที่จะเอ็นจอยไปกับการทานเมนูโปรดที่ร้านอาหารโดยตรง พวกเขาก็ยังมีความคิดที่จะสร้างบรรยากาศและช่วงเวลาดีๆในการทานเมนูโปรดที่บ้าน McDonald ต้องการให้ลูกค้าหลายล้านคนในฮ่องกงมีความสะดวกในการสั่งซื้อผ่านมือถือ เพื่อที่จะรักษาคุณค่าตรงนี้ไว้ไปพร้อมกับการทำให้ผู้คนเข้าถึงอาหารอร่อยๆได้ง่ายขึ้น ด้วยจุดประสงค์นี้ ทีมการตลาดของ McDonald จึงตัดสินใจที่จะยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้แอป ปรับเส้นทางเพื่อนำไปสู่ Conversion ที่เพิ่มขึ้น พวกเขาต้องการใช้ Machine Learning เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าอย่างรวดเร็ว และใช้ในแคมเปญโฆษณาในแอปเพื่อกระตุ้นคำสั่งซื้อ

การใช้ Machine Learning ของ Googleให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

ด้วยคำปรึกษาเฉพาะทางจากพาร์ทเนอร์ที่ดูแลทางด้วน Data Analytics ทีม McDonald ก็ได้ติดตั้ง Google Analytics 4 และเริ่มรวบรวมข้อมูลอีคอมเมิร์ซแบบเรียลไทม์จากแอปของพวกเขา 

ต่อจากนั้น McDonald ก็หันมาใช้ Predictive Audience (กลุ่มเป้าหมายตามการคาดการณ์) เครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถคาดการณ์พฤติกรรมการสั่งซื้อในอนาคตโดยอิงจากข้อมูลเชิงลึกของอีคอมเมิร์ซที่รีเฟรชโดยอัตโนมัติ Predictive Audience ได้สร้างขึ้นโดยใช้เงื่อนไขที่เรียกว่า Predictive Metrics (เมตริกตามการคาดการณ์) ยกตัวอย่างเช่น การใช้ Purchase Probability Metric (เมตริกความน่าจะเป็นในการซื้อ) GA4 สามารถแนะนำ Predictive Audience โดยอัตโนมัติซึ่งประกอบด้วยลูกค้าที่มีแนวโน้มในการซื้อสูงสุดใน 7 วันข้างหน้า

McDonald ทดสอบ Predictive Audience แบบพร้อมใช้งานจำนวนหนึ่งซึ่งตรงตามข้อกำหนดเบื้องต้นของ Prediction-modeling (การสร้างแบบจำลองการคาดการณ์) ตามการออกแบบ การที่ Predictive Audience เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นั่นยิ่งทำให้ GA4 ย่นระยะเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายๆเดือนเป็นภายในไม่กี่สัปดาห์ การใช้งานที่ง่ายดายนี้ช่วยให้ McDonald วางแผนโอกาสที่ทั้งได้ผลและไม่ได้ผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเห็นว่า Next Step ควรทำอย่างไรต่อไป

“ศักยภาพของ Machine Learning ใน GA4 ช่วยให้เราเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การโฆษณาดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล โดยใช้ประโยชน์จากวิธีการแก้ปัญหาที่พร้อมใช้งานทันที”

Kai Tsang ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายประสบการณ์ลูกค้าดิจิทัล McDonald ฮ่องกง

เนื่องด้วยธรรมขาติของอุตสาหกรรมและค่าการสั่งซื้อซ้ำที่สูง “ผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นผู้ซื้อในช่วง 7 วัน” กลับกลายเป็นกลุ่มที่สามารถขับเคลื่อน ROI ได้มากที่สุดสำหรับเครือร้านอาหารที่โฟกัสการลงทุนโฆษณาไปกับ Segment นี้

การเปิดใช้งานข้อมูลเชิงลึกใน Google Ads

ต้องขอบคุณการเชื่อมต่อระหว่าง GA4 และ Google Ads ที่ทำให้สามารถส่งออกกลุ่ม Predictive Audience เข้าไปในแคมเปญโฆษณาของพวกเขาได้อย่างราบรื่น เอเจนซีโฆษณาของ McDonald แนะนำให้ใช้ App Campaign เพื่อการมีส่วนร่วม ประเภทแคมเปญโฆษณาอัตโนมัติเต็มรูปแบบที่แจ้งให้ผู้ใช้แอปในแพลตฟอร์มต่างๆ ของ Google ลงมือทำอะไรสักอย่าง Google Ads ทดสอบส่วนประกอบต่างๆอย่างเช่น ตัวอักษร ภาพ และวีดีโอ เพื่อสร้างโฆษณาที่เหมาะสมให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เกี่ยวข้อง ใช้ควบคู่ไปกับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกลุ่มที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อ มันจึงกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับ McDonald ในการเข้าถึงลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และกระตุ้นการสั่งซื้อในแอป 

แม้ว่าความต้องการของผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว McDonald ฮ่องกงก็สามารถปรับตัวให้เข้ากับความอยากใหม่ๆของลูกค้า และส่งมอบช่วงเวลาอันแสนอร่อยให้กับพวกเขา ในเวลาเพียง 2 เดือน McDonald สามารถเพิ่ม Conversion มากถึง 550% สำหรับ “ผู้ซื้อที่มีแนวโน้มว่าจะซื้อใน 7 วัน” และลด CPA ลงถึง 63% สำหรับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว นอกเหนือจากนั้น McDonald เห็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มเป้าหมายนี้สูงถึง 560% ด้วยกลยุทธ์แบบ Data-driven นี้ ทีมการตลาดของ McDonald ฮ่องกง ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

หลังจากที่ได้อ่านกันจนจบแล้ว เราหวังว่าเพื่อนๆจะสามารถนำสิ่งที่เราเล่าไปปรับใช้กับธุรกิจของตัวเองได้นะคะ และหากใครสนใจอยากติดตั้งหรือสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Analytics 4 สามารถติดต่อ Predictive เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย หรือรับคำปรึกษาเบื้องต้น ฟรี ได้เลย

Reference