Data Collection

เก็บ Data ยังไง ให้ทั้งบริษัทสามารถนำไปใช้ได้จริง

จากคอนเทนต์ ธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ใช้ Customer Data ทำอะไรบ้าง หลังจากเราตั้งเป้าหมายสำหรับการใช้ Customer Data ให้กับธุรกิจของเราแล้ว ต่อไปคือการวิเคราะห์ข้อมูล (Customer Data Analytics) ซึ่งจะมีทั้งหมด 5 Pillars

  1. Collection
  2. Harmonization
  3. Segmentation & Analytics
  4. Activation
  5. Loyalty

รากฐานที่แข็งแรงของการวิเคราะห์ข้อมูล (Customer Data Analytics) คือการเก็บข้อมูล (Data Collection) หากเรามีการเก็บข้อมูลที่ดี จะช่วยให้เราก้าวสู่ขั้นตอนถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง มีทิศทาง และที่สำคัญคือ เราจะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้เยอะขึ้นแถมยังนำไปใช้ได้อีกด้วย

Customer Data ส่วนไหนบ้างที่ควรเก็บ

ข้อมูลที่เราเก็บมานั้น จะมี 2 ประเภท ได้แก่

First party data VS third party data
  1. First Party Data : ข้อมูลที่เราเก็บมาเองไม่ว่าจะเป็นช่องทาง Online หรือ Offline และเราเป็นเจ้าของเองด้วย เช่น ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน หรือบนเว็บไซต์ของเรา, ข้อมูล CRM, Point Of Sales, Call-Center, After Service, Cookie บนเว็บไซต์
  2. Third Party Data : ข้อมูลลูกค้าของเรา บนเว็บไซต์ของคนอื่น เช่น ข้อมูลลูกค้าเราบน E-Commerce Platform ที่เรานำสินค้าไปวางขาย เช่น ข้อมูลลูกค้าที่มีการซื้อสินค้าของเราใน Shopee/ Lazada หรือ E-commerce Platform อื่นๆ ว่ามีพฤติกรรมอย่างไรใน Platform นั้นๆ

First Party Data จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท จำแนกตาม Identiafiable และ Non-identiafiable

  1. Identifiable or known user = ข้อมูลลูกค้า (CRM, payment, email, name)
  2. Non-identifiable or anonymous user = ข้อมูลพฤติกรรมบนเว็ปที่ไม่สามารถระบุเป็นตัวคนได้

ถ้าเราสามารถเชื่อม User ทั้งสองประเภทนี้เข้าด้วยกันได้ จะช่วยให้เราเข้าใจว่าลูกค้าคนไหนมีพฤติกรรมอย่างไรบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชันของเรา และมากไปกว่านั้น หากเราสามารถนำข้อมูล Third Party Data เข้ามารวมด้วย จะยิ่งทำให้เราเข้าใจลูกค้าแบบ 360 องศา ครบรอบวงเลยทีเดียว ว่าเค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของเราอย่างไรบ้าง

วัดความสามารถในการทำ Data Collection

โดยการวัดความสามารถในการทำ Data Collection จะถูกแบ่งเป็น 4 ระดับ ตามนนี้ 

Data Collection
  1. Starting Stage: ธุรกิจที่เริ่มต้นเก็บข้อมูลแล้ว แต่มีการใช้งานแค่ในส่วนของ Unindentifable Data 
  2. Growing Stage: ธุรกิจที่มีการนำข้อมูลทั้ง Identifiable และ Non-identifiable มาใช้
  3. Scalable Stage: ธุรกิจที่มีการเก็บข้อมูลทั้ง First Party และ Third Party Data
  4. Stable Stage: ธุรกิจที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดเข้าด้วยกัน และสามารถระบุได้ว่าข้อมูล First Party Data และ Third Party Data นั้นๆ เป็นของผู้ใช้คนไหน โดยระบุตัวตนของผู้ใช้เป็น User ID

หลังจากที่เราทราบแล้วว่าธุรกิจนั้นๆมีความสามารถอยู่ที่ระดับไหน ขั้นตอนต่อไปคือการวางแผนการดำเนินงานเพื่อก้าวสู่ระดับถัดไป ทุกๆการวางแผน เรามีเป้าหมายเพื่อให้ธุรกิจที่เราดูแลไปสู่ Stable Stage ที่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

หลังจากที่ได้อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว เราหวังว่าทุกๆคนจะสามารถนำเรื่องราวที่เราแบ่งปันในวันนี้ไปใช้ได้กับธุรกิจของตัวเองนะคะ และหากใครสนใจการวางแผน Customer Data Collection สามารถติดต่อ Business Consultant ของ Predictive ได้เลยที่ช่องติดต่อPredictive ด้านล่างนี้ค่ะ และเรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย