แนวทางพัฒนาเว็บไซต์

6 แนวทาง Tech Company ผลักดันเว็บไซต์ให้ธุรกิจพุ่งทะยานสู่ความสำเร็จ

การที่บริษัทเทคโนโลยีจะมุ่งหน้าสู่ผลสำเร็จทางธุรกิจได้ต้องอาศัยการมอนิเตอร์เว็บไซต์เพื่อพัฒนาการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้และอัตราการเกิดยอด Conversion อย่างสม่ำเสมอ ซึ่ง Tech Company จะสามารถเดินหน้าพัฒนาเว็บไซต์เพื่อพาธุรกิจไปถึงเป้าหมายโดยมีดาต้าเป็นตัวขับเคลื่อนได้ก็ด้วยการให้ความสนใจใน 6 แนวทางสำคัญนี้

6 แนวทางสำคัญช่วยผลักดันเว็บไซต์ให้ธุรกิจ Tech Company พุ่งทะยาน

1.Data Snapshot

การจัดเก็บข้อมูลและรายละเอียดที่ผ่านการจัดเก็บมาก่อนหน้าไว้ในรูปแบบของ Image เพื่อให้ธุรกิจสามารถเทียบตัวเองกับ Benchmark ที่มีอยู่ว่าเราอยู่ในจุดไหนและกำลังก้าวหน้าไปในทิศทางใด ซึ่งสำหรับเว็บไซต์แล้วนั้นมาตรวัดประสิทธิภาพที่สำคัญประกอบไปด้วย

  • Session Length ระยะเวลาเข้าใช้เว็บไซต์ใน 1 Session
  • Page Views จำนวนหน้าเว็บที่มีการเปิดนับตลอดการเข้าชมเว็บไซต์
  • Unique Views จำนวนการเข้าชมเว็บไซต์แบบไม่ซ้ำกัน
  • Bounce Rate อัตราการคลิกออกจากหน้าเว็บ
  • Campaign Bounce Rate อัตราการคลิกออกจากหน้าที่มีการทำแคมเปญ
  • Lead Conversion Rate อัตราการเปลี่ยนของว่าที่ลูกค้าไปสู่การเกิด Conversion 

2.Data Insights

เมื่อมีเว็บไซต์เป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ สิ่งสำคัญของการบริหารอย่างเต็มศักยภาพคือติดตามถึงผลลัพธ์ที่ผ่านมาและคอยประเมินค่าว่าเว็บไซต์ของเรานั้นมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดเพื่อมองหาโอกาสในการพัฒนาต่อไป การจะค้นพบคำตอบว่าแนวทางข้างหน้าควรเป็นเช่นใดก็ด้วยการอาศัย “ข้อมูลเชิงลึก” เพื่อความเข้าใจในเรื่องของการสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้า การได้มาซึ่งลูกค้าและรักษาฐานลูกค้า รวมทั้งการลงทุนเพื่อต่อยอด


ข้อมูลเชิงลึกเบื้องต้นเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่เจ้าของธุรกิจต้องรู้

  • ระยะเวลา Session และ จำนวน Page views 

ค่ากลางของระยะเวลาของ Session อยู่ที่ 1.63 นาที และ มีจำนวน Page views อยู่ที่ 2 หน้าต่อSession ซึ่งนับว่าเป็นความท้าทายของธุรกิจที่ต้องทำให้ผู้ใช้เว็บสนใจใช้งานเว็บไซต์ในเวลาที่นานขึ้น

  • Bounce Rates (อัตราการคลิกออกจากหน้าเว็บ)

ค่ากลางของอัตราการคลิกออกจากหน้าเว็บอยู่ที่ 69% ซึ่งการทำให้ตัวเลขนี้น้อยลงอีกได้หากมีการปรับปรุงความตรงประเด็นให้ตรงกับสิ่งที่ผู้ใช้สนใจเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของผู้ใช้

3.Messaging and Storytelling Effectiveness

การประเมินว่าที่ผ่านมาธุรกิจของเรามีประสิทธิภาพในการสื่อสารและเล่าเรื่องเพื่อให้ลูกค้าเข้าใจคุณค่าความสำคัญของแบรนด์อย่างไร เพื่อให้สารที่ส่งออกไปมีความตรงประเด็น แน่นอนว่าย่อมทำให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมกับเว็บไซต์ของเรามาขึ้น มองเห็นในคุณค่าที่ส่งมอบให้ลูกค้า สร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจและทำให้ลูกค้าเห็นภาพจนเกิดการซื้อในที่สุด และเพื่อให้ส่งสารและเล่าเรื่องได้อย่างสมบูรณ์ ธุรกิจควรโฟกัสที่สิ่งเหล่านี้

  • Relevance & Urgency ความตรงประเด็นและความเร่งด่วน
  • Storytelling Framework กรอบการเล่าเรื่อง
  • Customer Success ความสำเร็จของลูกค้า
  • Value Proposition คุณค่าที่ส่งมอบให้ลูกค้า
  • Differentiation ความแตกต่างและโดดเด่นของธุรกิจ

4.Compelling Content

ปฎิเสธไม่ได้ว่าเนื้อหาที่ดึงดูดใจและกระตุ้นความสงสัยใคร่รู้ ซึ่งเป็นได้หลายรูปแบบทั้ง วิดีโอเล่าเรื่อง กรณีศึกษา หรือ เอกสารนำเสนอข้อมูล เหล่านี้ล้วนมีส่วนสะท้อนให้เห็นว่าธุรกิจมีการใช้คอนเทนต์เพื่อถ่ายทอดสิ่งที่ต้องการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างครบถ้วนแข็งแรงหรือไม่ แน่นอนว่าการทำให้เนื้อหาทั้งหมดนี้ประสบความสำเร็จก็ต้องพึ่งพาทั้งวิธีการนำเสนอ ความหลากหลายของเนื้อหา และ ความตรงประเด็นของเนื้อหา

5.Visitor Engagement

สิ่งที่บอกได้ดีที่สุดว่าลูกค้ามีส่วนร่วมกับธุรกิจของเรามากน้อยเพียงใดก็คือยอด Call to Action (CTA) ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ร่วมกับช่องทางอื่นๆ อย่างโซเชียลมีเดียที่บอกถึงการมีส่วนร่วมของผู้คนในวงกว้างได้อย่างชัดเจนทั้งหมดนี้เพื่อเพิ่มช่องทางเข้าถึงและมีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

6.Look & Feel

ท้ายที่สุดแล้วภาพลักษณ์ของแบรนด์และอิมแพคที่มีต่อลูกค้าผ่านการใช้งานเว็บไซต์ได้มอบประสบการณ์เหล่านี้ออกไปอย่างไร ไม่ว่าจะเส้นทางการท่องเว็บหรือการให้ภาพและจินตนาการ เว็บไซต์มีความสม่ำเสมออย่างไรในการใช้สิ่งเหล่านี้สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ ซึ่งก็ต้องพึ่งพาทั้งองค์ประกอบของแบรนด์และ Navigation บนเว็บไซต์

ที่มาข้อมูล Gartner : 6 Key Areas Tech CEOs Must Evaluate to Improve Website Effectiveness