เข้าใจ Insight และ Take Action ได้ทันที ผ่านการใช้ Data Visualization

เข้าใจ Insight และ Take Action ได้ทันที ผ่านการใช้ Data Visualization

Data Visualization คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

คุณคิดว่าว่าการนำเสนอข้อมูลแบบใดจะทำให้ผู้ฟังได้รับ Message ที่เราต้องการสื่อสารจากข้อมูลที่มีมากที่สุด ระหว่างการให้ตารางข้อมูล Flie Excel จากหลากหลาย Data Sources เรียงกันหลายหน้าที่ไม่เห็น Pattern หรือ Message อะไร โดยเปรียบเทียบกับ การนำเสนอข้อมูล (Data Visualization) ผ่าน Chart หรือกราฟ ที่รวบรวมข้อมูลจากหลากหลาย Sources ไว้ในที่เดียว เห็น Pattern ของข้อมูล และอัปเดทข้อมูลให้แบบเรียลไทม์ด้วย 

การทำ Data Visualization ก็ทำให้ข้อมูลดูง่าย น่าสนใจ และทำให้ทุกผ่านเห็นภาพเดียวกันได้มากขึ้น ผ่านการนำข้อมูลที่สำคัญต่อธุรกิจมาแสดงผลในรูปแบบกราฟที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถเข้าใจสถานะของธุรกิจได้รวดเร็ว และชัดเจนขึ้น รู้ว่ายอดขายมักจะขึ้นช่วงไหน สินค้าไหนขายดี และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้เราสามารถนำข้อมูลไปคิดหากลยุทธ์ หรือ Take Action ได้ต่อ 

ซึ่งปัจจุบันก็มือเครื่องมือหลากหลาย เช่น Google Data Studio (หรือชื่อใหม่คือ Looker Studio) ที่สามารถเชื่อมต่อข้อมูลได้จากหลากหลาย Sources และรองรับข้อมูลจำนวนมากได้

Google Data Studio (Looker Studio) คืออะไร 

Google Data Studio เป็นเครื่องมือที่ช่วยแสดงผลข้อมูล (Data Visualization) โดยสามารถเชื่อมต่อข้อมูลในองค์กรที่ต้องการนำเสนอได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมีเครื่องมือช่วยสร้างกราฟรูปแบบต่างๆได้อย่างสะดวกสบาย 

โดยเราสามารถดึงข้อมูลมาแสดงผลได้จากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็น Excel, Google Sheet, CSV,  Google Analytics, BigQuery, YouTube Analytics, Search Console เป็นต้น และที่สำคัญ Google Data Studio สามารถอัพเดทข้อมูลได้แบบ Real time และแชร์ dashboard ให้กับผู้อื่นได้อย่างปลอดภัย ทำให้ทุกคนในองค์กรเห็นภาพเดียวกัน และสามารถนำ Insight ที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างทันท่วงที 

ประโยชน์ของ Google Data Studio (Looker Studio)

  1. ใช้งานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
  2. ไม่ต้องลงโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ เพียงเปิดใช้งานผ่านบราวเซอร์ Google Chrome ก็สามารถสร้างหรือเข้าไปดู dashboard ได้ทุกอุปกรณ์ ทุกที่ที่มีอินเตอร์เน็ต
  3. สามารถดูข้อมูล Dashboard ได้แบบ real time สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ได้อย่างทันท่วมที
  4. สามารถแชร์ให้เพื่อนร่วมงานหรือลูกค้าได้ง่าย และสามารถกำหนดสิทธิการเข้าถึงได้
  5. หน้าจอ user interface ออกแบบให้สามารถใช้งานได้ง่าย เป็นมิตรกับมือใหม่
  6. มี Visualization หรือกราฟหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมของข้อมูล
  7. สามารถช่วยกันสร้างและปรับแก้ไข dashboard พร้อมกันได้หลายคน
  8. Google Data Studio สามารถเชื่อมกับถังข้อมูลที่มาจาก product ของ Google ได้โดยตรง เช่น Google sheet, Google Analytics, Search Console เป็นต้น

ตัวอย่างการทำ Data Visualization ในอุตสาหกรรมต่างๆ 

Website E commerce Performance Dashboard 

หากเรามี website ecommerce ที่มีการติดตั้ง Google Analytics เรียบร้อย เราสามารถเชื่อมข้อมูลจาก Google Analytics มาแสดงบน Google Data Studio ได้ทันที

ใน Dashboard นี้ เราสามารถดูข้อมูล traffic performance และ sale performance ของ website เราได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถ filter ข้อมูลตามช่วงเวลาที่สนใจ กรองข้อมูลเฉพาะกลุ่ม users ที่เราสนใจได้ โดยกดเลือกกล่อง filter ที่อยู่บนหัว dashboard

ในส่วนของกราฟ จะแสดงค่าชี้วัด KPI สำคัญต่างๆ เช่น sessions, revenues, product performance ได้เป็นรายวัน และช่วยเปรียบเทียบตัวเลขกับเดือนก่อนหน้าได้ด้วย

ยกตัวอย่าง insight ที่ได้จาก dashboard เช่น 

  1. User ชอบใช้อุปกรณ์ใดในการเข้า website 
  2. User มาจากประเทศใดบ้าง
  3. Source/Medium ใดที่มีคุณภาพ สร้าง revenue ให้กับเราได้ดี
  4. Product ยอดนิยมที่ได้รับความสนใจ

ข้อมูล insight เหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจ users มากยิ่งขึ้น และเราสามารถนำไปต่อยอดพัฒนา website ของเรา หรือเป็นข้อมูลในการสร้าง segment ในการยิง Ads ต่อไปได้

Search Ads 360 Performance Dashboard 

ในตัวอย่างนี้เป็นการนำข้อมูลจาก Search Ads 360 มาแสดงผลเป็น Dashboard ในรูปแบบที่เราต้องการ ทำให้เราสามารถจัดวางกราฟข้อมูลต่างๆได้อย่างอิสระ สะดวกในการดูข้อมูลและเปรียบเทียบ KPI ต่างๆตามสไตล์ของเราเอง

การที่เราจะสร้าง Dashboard ที่มีข้อมูลค่อนข้างเยอะและซับซ้อน อีกทั้งข้อมูลทุกอย่างรวมอยู่ในหน้าเดียวกันจะทำให้ผู้ใช้งานสับสนและใช้พลังงานเยอะในการค้นหาตัวเลขที่ต้องการ ที่สำคัญจะทำให้ dashboard ของเราโหลดข้อมูลช้าลงอย่างมาก 

เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดย แบ่ง dashboard เป็นหน้าย่อยๆ เพื่อจัดกลุ่มข้อมูลให้เป็นระเบียบ ไม่ทำให้ dashboard มีตารางแน่นเกินไป และง่ายต่อการวิเคราะห์ข้อมูล ยกตัวอย่างเช่น ด้านซ้ายของ dashboard ตัวอย่างนี้ ได้แบ่งหัวข้อออกเป็นทั้งหมด 6 หัวข้อ ได้แก่ Overview จะเป็นการดูภาพรวมของข้อมูล เหมาะสำหรับผู้บริหารในการดู performance key KPI สำคัญต่างๆ หากต้องการเจาะลึกดูรายละเอียดในมุมต่างๆ สามารถเปลี่ยนไปหน้าย่อยอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็น Advertiser Performance, Campaign Performance, Engine Performance, Device Performance, Opportunity Lost Performance ซึ่งจะมีรายละเอียดที่มากขึ้น ช่วยในการเสริมข้อมูลจากหน้า overview ได้

การที่เราออกแบบ dashboard เป็นระเบียบ กระชับ ใช้งานง่าย จะเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ dashboard ของเราเป็นอย่างดี และลดเวลาการโหลดข้อมูลใน dashboard ของเราอีกด้วย

สรุปเรื่อง Google Data Studio (Looker Studio) 

Google Data Studio เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถสร้าง Report จากข้อมูลจากหลากหลาย Sources มานำเสนอและวิเคราะห์หา insights ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนกลยุทธ์ได้ตอบโจทย์ลูกค้าได้มากขึ้น