Google Consent Mode

Google Consent Mode ตัวช่วยวัดผล Conversion ให้แม่นยำยิ่งขึ้น

ทุกวันนี้การเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์เป็นเรื่องที่ทำได้ยากขึ้น เนื่องด้วยกฎหมาย PDPA หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่มีการบังคับใช้ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ความสามารถในการวัดผล Conversion จากข้อมูลที่เก็บได้นั้นลดลง 

จากผลสำรวจทาง Google พบว่าผู้ใช้งานกว่า 76% เลือกที่จะเพิกเฉยกับ Cookie Banner ที่เด้งขึ้นมาบนหน้าเว็บ ทำให้เจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดไม่สามารถเก็บข้อมูล Conversion หรือ การกระทำต่างๆที่เกิดขึ้นได้ ทาง Google จึงคิดค้นฟีเจอร์ที่สามารถเก็บข้อมูล Conversion จากผู้ใช้งานที่กดปิดแบนเนอร์หรือกดไม่ยินยอมได้เพื่อการวัดผลที่แม่นยำมากขึ้นโดยข้อมูลที่เก็บนั้นจะไม่ระบุตัวตนผู้ใช้งาน หรือเก็บเป็นแบบ Anonymous นั่นเอง

Google Consent Mode

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

Google Consent Mode คืออะไร

Consent Mode เป็นฟีเจอร์ที่ทำให้เจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดสามารถเก็บข้อมูล Conversion จากผู้ใช้งานที่กดปิดแบนเนอร์ หรือกดไม่ยินยอมให้เก็บคุกกี้โดยไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้ไปใช้ในการยิงโฆษณา หรือ ทำการ Remarketing ต่อ โดย Consent Mode จะมีโมเดลทำนายพฤติกรรมของผู้ใช้ดังกล่าวที่เข้ามาบนหน้าเว็บไซต์และเก็บรวบรวมข้อมูลของผู้ใช้เหล่านั้นคำนวณออกมา เพื่อให้การวัดผล Conversion แม่นยำมากยิ่งขึ้น

เคสตัวอย่าง

Google Consent Mode

เราเป็นเจ้าของเว็บไซต์ขายกระเป๋าที่มีจำนวนผู้เข้าใช้ 1,000 คน ซึ่งมีคนกดยอมรับคุกกี้ 500 คน และ ไม่กดยินยอมอีก 500 คน

  • ในจำนวนคนกดยอมรับ มี Conversion เกิดขึ้นทั้งหมด 50 Conversion
  • ในจำนวนกดไม่กดยินยอม มี Conversion เกิดขึ้นทั้งหมด 12 Conversion

ในกรณีที่เราไม่เปิดใช้งาน Consent Mode เราจะเก็บ Conversion ได้เพียง 50 Conversion หรือ Conversion Rate ที่ 5% (50/1,000) เท่านั้น ในขณะที่ถ้าเราเปิดใช้ Consent Mode เราจะได้ Conversion เพิ่มมาอีก 9 Conversion (คิดเป็น 75% ของ 12 Conversion) รวมเป็น 59 Conversion หรือ Conversion Rate ที่ 5.9% (59/1,000) นั่นเอง

จากเคสนี้เราจะเห็นได้ว่าการเปิดใช้ Consent Mode ช่วยให้เราสามารถเก็บ Conversion ที่หายไปได้มากขึ้นถึง 18% เลยทีเดียว 

“แม้ว่าการเปิดใช้ Consent Mode อาจจะยังไม่สามารถเก็บ Conversion จากผู้ใช้งานที่ไม่กดยินยอมได้ทั้งหมด 100% แต่ก็สามารถเก็บได้มากกว่า 70% หรือเทียบเท่า 3 ใน 4 ของผู้ใช้งานดังกล่าวทั้งหมด”

Google

Google Consent mode ทำงานยังไง

Google Consent Mode

หลังจากที่เรา ตั้งค่า Consent Mode ใน Google Tag Manager เรียบร้อยแล้ว เมื่อผู้ใช้งานเข้ามาบนหน้าเว็บไซต์ พวกเขาจะเห็น Cookie Banner เด้งขึ้นมาให้กดเลือกยอมรับหรือไม่ยอมรับคุกกี้ หลังจากนั้นสถานะคุกกี้ที่เรากดก็จะถูกส่งผ่านแพลตฟอร์มเว็บไซต์กลับไปยังฟีเจอร์ Consent Mode ที่อยู่ใน GTM ซึ่งจะมี 2 สถานะ คือ Granted (ยินยอม) กับ Denied (ไม่ยินยอม) 

หากสถานะ Consent ที่ส่งไปเป็น Granted ก็จะสามารถเก็บข้อมูลที่ระบุตัวตนได้ เช่น User Client’s ID, Cookie ก็จะถูกเก็บใน Google Analytics และ Google Ads ตามปกติ แต่หากสถานะเป็น Denied ข้อมูลก็จะถูกเก็บแบบไร้คุกกี้ (Cookieless) เป็นข้อมูล Conversion หรือ Interaction (เวลาเข้าใช้งาน, การกดดูวีดีโอ) ต่างๆที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ แต่สามารถนำมาคำนวณเพื่อวัดผลได้

ในกรณีที่ผู้ใช้งานไม่ได้กดยอมรับคุกกี้ในครั้งแรกของการเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ แต่ผ่านไปสักพักมี Cookie Banner เด้งขึ้นมาอีกแล้วกดยอมรับ (ใน Session เดียวกัน หรือ ภายใน 30 นาที) สถานะของคุกกี้ที่ส่งกลับไปยังฟีเจอร์ Consent Mode ตั้งแต่แรก ก็จะเปลี่ยนจาก Denied เป็น Granted ทันที 

เมื่อเราได้ข้อมูลที่ไม่ระบุตัวตนมาเรียบร้อยแล้ว Consent mode ก็จะนำข้อมูลเข้าสู่การสร้างโมเดล (Consent Mode Modeling) ซึ่งผลลัพธ์ก็จะถูกประมวลผลออกมาเป็นรายงาน โดยเเราสามารถเช็คได้ที่เครื่องหมาย “ถูก” ด้านขวาบน ซึ่งถ้ามีคำว่า “Including estimated user data” ก็แสดงว่ารายงานนั้นมีการรวบรวมข้อมูลที่ได้จากโมเดล Consent Mode ไว้แล้ว

หากใครที่สนใจติดตั้ง Cookie Banner โดยมีฟีเจอร์ Consent Mode รวมไปด้วย สามารถดูรายละเอียดได้ที่ CookiePlus ได้เลย และสำหรับใครที่อยากเก็บข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถวัดผลได้อย่างแม่นยำ สามารถกดปุ่ม “ติดต่อ Predictive” ด้านล่างเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้เลย ทางเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Data โดยตรงคอยให้คำปรึกษาเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆค่ะ