ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจ หรือวางกลยุทธ์ใดๆ สิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญคือการทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้ ซึ่งรูปแบบข้อมูลที่เราสามารถนำมาใช้เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผู้ใช้นั้น สามารถแบ่งข้อมูลออกมาได้ 2 ประเภท นั่นก็คือ 1.Qualitative Data และ 2. Quantitative Data ในบทความนี้เราจะมาบอกเล่าถึงความแตกต่างของข้อมูลแต่ละประเภทและการนำข้อมูลแต่ละประเภทไปปรับใช้ในธุรกิจของท่านได้อย่างตรงจุดค่ะ
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
Quantitative Data คืออะไร ?
เป็นข้อมูลที่เป็นเชิงตัวเลข เพื่ออธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งในอดีต และ ปัจจุบัน รวมถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
โดยข้อมูลที่ได้รับจะมีความเฉพาะเจาจง และลงรายละเอียด ตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เช่น ข้อมูลเชิงพฤติกรรม จากการเก็บข้อมูลพฤติกรรมของผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นผ่านการติดตั้ง Event Tracking
Quantitative Data มาจากไหนได้บ้าง
- ข้อมูลจาก Google Analytics : ทำให้เราเข้าใจพฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ของผู้ใช้งานเช่น ผู้ใช้งานเข้าชมหน้าไหนบ้าง เข้าชมเป็นเวลากี่นาที เข้ามาจาก Media ไหน มีการคลิกปุ่มไหนบ้าง (Click Tracking)
- Google Trends : ข้อมูลการเสิร์ชคำค้นหาบท Google ทำให้เรารู้ว่าผู้ใช้งานกำลังสนใจเรื่องอะไรอยู่บ้าง ในช่วงเวลาที่กำหนด
- A/B Testing หรือการทดสอบว่าองค์ประกอบเวอร์ชันไหนบนเว็บไซต์จะช่วยเพิ่ม Conversion Rate ได้มากที่สุด เช่น ปุ่มสีแดง หรือ ปุ่มสีเขียว
Qualitative Data คืออะไร ?
เป็นข้อมูลเชิงคุณภาพที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าใจ พฤติกรรม ทัศนคติ ของผู้ใช้งาน ตั้งแต่ก่อนใช้ ระหว่างใช้ หลังใช้ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ทำให้เข้าใจสิ่งที่อยู่ในจิตใจของผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้เกิดการกระทำต่างๆ
Qualitative Data มาจากไหนได้บ้าง
- User Interview พูดคุยแบบ 1 ต่อ 1 เพื่อค้นหาข้อมูลเชิงลึกจากกลุ่มเป้าหมายที่เราสนใจ
- Focus Group เชิญกลุ่มผู้ใช้มาสนทนาเกี่ยวกับหัวข้อที่เราสนใจ เพื่อที่จะเข้าใจและรับรู้ความคิดเห็นความรู้สึก รวมทั้งพฤติกรรมของผู้ใช้
- Usability Testing ดูพฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์ ว่ามี Flow การใช้งานเป็นอย่างไร ตอนใช้งานสามารถใช้งานได้ลื่นไหล และบรรลุจุดประสงค์ของ Application / Website นั้นๆ ได้หรือไม่
อ่านเพิ่มเติม Focus Group กับ In-depth Interview เลือกใช้ยังไงดี ?
ความแตกต่างของการทำ Research แบบ Qualitative และแบบ Quantitative
Quantitative data | Qualitative data |
---|---|
ช่วยตอบคำถาม “อะไร” “ที่ไหน” “อย่างไร” “เมื่อไหร่” และ “ใคร” | ช่วยตอบคำถาม “ทำไม” |
ได้ข้อมูลเป็นตัวเลข | ได้ข้อมูลเชิงทัศนคติ ความเห็น และประสบการณ์ที่ผ่าน |
ต้องการกลุ่มตัวอย่างจำนวนมาก | ต้องการกลุ่มตัวอย่างจำนวนน้อย |
วิเคราะห์ข้อมูลด้วยหลักการทางสถิติ | วิเคระาห์ข้อมุลจากการสัมภาาณ์ และ การสังเกต |
ใช้คำถามปลายปิด | ใช้คำถามปลายเปิด |
ใช้สำหรับการพิสูจน์สันนิษฐาน | เพื่อสร้างสมมติฐานใหม่ๆ หรือ สร้างสรรไอเดียใหม่ๆ |
เทคนิคการเลือกใช้ Qualitative Research หรือ Quantitative Research ให้เหมาะสมตามสถานการณ์
ตอบให้ได้ว่าตอนนี้สินค้า / บริหารของบริษัทคุณอยู่ในสเตจไหน และเลือกใช้ข้อมูลที่เหมาะสม เช่น
- Stage : พัฒนาสินค้าขึ้นมาใหม่
- ต้องการรู้เทรนด์ภาพรวม สามารถวิเคราะห์ Big Data หรือระบุสิ่งที่คนกำลังใจให้ความสนใจได้ทันที เช่น ใน Google Trends มีคำค้นหาเรื่อง Bitcoin จำนวนมาก
- เมื่อเราเห็นโอกาสที่คนสนใจในภาพรวมแล้ว เราสามารถหา Insight เชิงลึกได้จากการทำ User Interview , Focus Group เพื่อให้เข้าจความต้องการ ปัญหา ต่างๆ ที่ผู้ใช้งานกำลังเผชิญอยู่
- Stage : พัฒนาสินค้าที่มีอยู่เดิม ให้ดีขึ้น
- ข้อมูล Behavioral Data ซึ่งเป็น Quantitative Data จาก Google Analytics ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมการใช้งาน Web /App ของลูกค้า และทำให้เราเห็นจุดที่ควรพัฒนาให้ดีขึ้น เช่น หน้าที่มี Bounce Rate สูง
- เมื่อเรารู้แล้วว่าจุดไหนมีปัญหา เราก็ต้องมาวิเคราะห์ต่อว่า ทำไมจุดนั้นถึงเป็นปัญหา ซึ่งอาจมีหลายสาเหตุเช่น
- ผู้ใช้งาน ไม่สามารถหาสิ่งที่ต้องการเจอ เพราะเรามีออกแบบเว็บไซต์ หรือ แอปพลิเคชั่นที่มี user experience ที่สับสน
ทางแก้คือเราสามารถทำ A/B Testing โดยมีการตั้งสมมติฐานที่ต้องการทดสอบ เช่น คนกรอกฟอร์มสมัครสมาชิกแค่ 5% จากจำนวนคนเข้าทั้งหมด ก็สามารถตั้งสมมติฐานได้ ถ้าเราเปลี่ยน Messaging ที่ใช้ให้น่าดึงดูดมากขึ้น คนกรอกฟอร์มจะเพิ่มขึ้นไหม
เมื่อรันแคมเปญจนได้ปริมาณข้อมูบที่เหมาะสมแล้ว ก็นำข้อมูลใน Google optimize มาวิเคราะห์ควบคู่กับ Google Analytics เพื่อดูว่าองค์ประกอบแบบไหนที่สร้าง Conversion ได้มากที่สุด
อ่านเพิ่มเติม A/B Testing คืออะไร ช่วยเพิ่ม Conversion Rate ให้แบรนด์ได้อย่างไร
สรุป
การทำ User Research นั้นประกอบด้วยข้อมูลทั้งแบบ Qualitative และ Quantitative ธุรกิจสามารถเลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์เพื่อเข้าใจผู้ใช้งาน และส่งมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด สำหรับแบรนด์ที่ต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการทำ user experience research ในรูปแบบที่วัดผลได้ และตอบโจทย์ปัญหาธุรกิจของท่าน สามารถติดต่อมาได้ที่ Predictive เลยค่ะ เรามีทีม User Experience ที่พร้อมช่วยให้ธุรกิจของคุณได้ Insight ที่ต้องการ
How we can help
Fill out the form below to discuss your needs or learn more about our services
"*" indicates required fields