คอนเทนต์ไม่ปัง ที่จริงเพราะ SEO นี่เอง

ถ้าคุณกำลังเริ่มทำธุรกิจที่ต้องมีหน้าเว็บไซต์เป็นของตัวเอง สิ่งที่ต้องรู้เมื่อจะเริ่มทำเว็บไซต์ ที่สำคัญอันดับต้นๆเลยคือการทำ SEO ซึ่งจะช่วยทำให้เว็บไซต์ธรรมดาๆของคุณกลายเป็นเว็บไซต์ติดอันดับชั้นนำที่ใครๆต่างก็เข้ามาค้นหา เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เมื่อพูดถึงการทำคอนเทนต์ คงไม่พูดถึง SEO ไม่ได้ เพราะคอนเทนต์บนหน้าเว็บไซต์เป็นหนึ่งหัวใจสำคัญที่ดึงดูดผู้คนเข้าเยี่ยมชม แต่คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าทำไมเว็บไซต์ของคุณมีการทำ SEO ก็แล้ว ลงคอนเทนต์บ่อยๆก็แล้ว ใส่คีย์เวิร์ดเยอะๆก็แล้วแต่ทำไมยอด Traffic ถึงยังไม่ปังเสียที หรือจริงๆแล้วคุณกำลังทำ SEO อย่างผิดวิธีอยู่นะ ลองมาดูต้นเหตุกันดีกว่าว่ามีความเชื่อผิดๆของการทำ SEO อะไรบ้างที่ทำให้ยอดเข้าชมเว็บไซต์ยังไม่ถึงเป้าที่คุณตั้งใจไว้เสียที 

5 เหตุผลง่ายๆที่ทำ SEO เท่าไหร่ก็ไม่ได้ผลตามที่ตั้งเป้าไว้

ขอแค่มีคีย์เวิร์ดติดอันดับหน้าแรกก็พอแล้ว

การตั้งเป้าเว็บไซต์ให้มีคีย์เวิร์ดติดอันดับหน้าแรกของGoogleนั้นอาจยังไม่เพียงพอที่จะบอกว่าเว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการให้ผู้คนสนใจกับโปรดักส์ที่เรามี หรือเพื่อเพิ่มยอดTrafficที่สม่ำเสมออย่างยั่งยืน การตะบี้ตะบันใส่คีย์เวิร์ดเพื่อให้ติดอันดับหน้าแรกไม่ได้ส่งผลดีระยะยาวแต่อย่างใด หากผู้ใช้ไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการจริงๆ นานวันเข้าอันดับเหล่านี้ก็ไม่มีความหมาย จริงอยู่ว่าการมีคีย์เวิร์ดสำคัญจะช่วยให้เว็บไซต์ของเราค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการผลิตคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาคุณภาพ นำเสนอในสิ่งที่ผู้ใช้อยากรู้ ควบคู่ไปกับประสบการณ์ที่ดีของการใช้งานเว็บไซต์ก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ และย่อมสร้างความประทับใจให้ผู้ใช้ติดตามและจดจำตัวตนของเราได้นานเช่นกัน

มีคอนเทนต์ซ้ำๆกันก็ไม่เห็นเป็นไร

การมีคอนเทนต์ซ้ำกันคือการที่เราจงใจหรือตั้งใจให้เนื้อหาเดียวกันไปปรากฏอยู่ในหลายๆหน้าบนเว็บไซต์เพื่อให้มียอดTrafficเข้ามาเยอะๆหรือติดอันดับสูงขึ้น จริงอยู่ว่าการมีเนื้อหาคอนเทนต์คล้ายคลึงกันบนเว็บไซต์นั้นสามารถเกิดขึ้นได้โดยที่เราไม่เจตนา และถึงแม้Googleจะไม่ได้มีบทลงโทษที่ชัดเจน แต่การผลิตคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาซ้ำๆกันเป็นจำนวนหลายคอนเทนต์นั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์โดยตรง เพราะไม่เพียงจะทำให้ผู้ใช้ต้องทนกับเนื้อหาเดิมๆซ้ำไปซ้ำมา Googleเองก็ต้องรับมือด้วยการกรองคอนเทนต์เหล่านี้และทำให้อันดับของเว็บไซต์ตกลงต่ำกว่าเดิม แม้กระทั่งทำให้หายไปจากหน้าค้นหาของGoogleเลยทีเดียว

ยิ่งใส่ลิงก์เยอะยิ่งดี

การใส่ลิงก์อย่างมีประสิทธิภาพลงในหน้าเนื้อหาคอนเทนต์นั้นเป็นตัวช่วยสำคัญในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์  ลิงก์ที่มีความเชื่อมโยงกับเนื้อหาทำให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงบริบท สาระสำคัญต่างๆเข้าด้วยกันเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่อ่านได้ง่ายขึ้นหรือได้รับคำตอบที่ต้องการ สมัครใจคลิกไปยังหน้าคอนเทนต์อื่นๆตามที่สนใจ และเพิ่มยอดTrafficให้กับเว็บไซต์ได้อย่างครบองค์รวม แต่ทว่าการใส่ลิงก์เยอะจนเกินพอดีกับตัวเนื้อหาคอนเทนต์นั้นส่งผลร้ายมากกว่าผลดี เพราะไม่เพียงจะทำให้เนื้อหาขาดความต่อเนื่องและมีความสะเปะสะปะอ่านเข้าใจยาก จนผู้ใช้ถอดใจที่จะอ่านต่อ ยังทำให้ประสิทธิภาพของเว็บไซต์ลดลง อย่าลืมว่าในเรื่องของการทำคอนเทนต์แล้วนั้นคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ

ไม่ต้องใส่ใจความสั้นยาวของเนื้อหาคอนเทนต์ก็ได้

แม้ Google จะไม่ได้ระบุไว้ชัดเจนว่าความสั้นยาวของเนื้อหาควรอยู่ที่เท่าไหร่จึงจะถือว่าดี แต่คอนเทนต์ที่มีใจความสั้นห้วนจนไม่ไขความกระจ่างใดๆหรือยาวเกินไปจนจับสาระสำคัญไม่เจอก็ส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพเว็บไซต์และสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีนักให้กับผู้ใช้เช่นกัน สิ่งที่ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการเขียนคอนเทนต์คือเนื้อหาที่ครบถ้วน(Subject Matter)และตอบสนองต่อสิ่งที่ผู้ใช้สนใจหรืออยากรู้(Search Intent) รวมทั้งมีคีย์เวิร์ดสำคัญที่ใส่มาอย่างพอเหมาะพอควร ควรเช็คให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ของเรามีเนื้อหาที่ครบถ้วน ครอบคลุมทั้งประเด็นสำคัญและข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการรู้ ซึ่งความสั้นยาวของคอนเทนต์ที่ดีอยู่ที่ 1,500 – 2,500 คำโดยประมาณขึ้นอยู่กับลักษณะของคอนเทนต์นั้นๆ

Search Intent ไม่สำคัญขนาดนั้น

การทำคอนเทนต์ให้ปังและดึงดูดผู้ใช้เข้าสู่เว็บไซต์นั้นจะมองข้ามความสำคัญของสิ่งที่ผู้อ่านต้องการไม่ได้เลย ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ Search Intent หรือที่เข้าใจง่ายๆว่าจุดมุ่งหมายที่ผู้ใช้ต้องการรู้เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แน่นอนว่าการผลิตคอนเทนต์ที่ตอบรับหรือสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้ใช้สนใจจะอ่านย่อมทำให้เราถือไพ่เหนือคู่แข่งด้วยเนื้อหาคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ตรงใจทั้งยังเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ไวและตรงเป้ากว่าเดิม แน่นอนว่าเมื่อผู้ใช้พึงพอใจกับข้อมูลที่ได้รับแล้วนั้นย่อมทำให้เกิดCall to Actionได้ง่ายขึ้นเช่นกัน

หากต้องการเรียนรู้เรื่องอื่นๆเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SEO คลิ๊กลิงก์ด้านล่างได้เลย

รวม 10 เรื่องต้องรู้ เพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ให้ดีขึ้น
References : Webmaster Guidelines | Google Search Central | Documentation