รู้จัก Big Data แล้ว แต่สงสัยว่าจะนำมาใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ไหม หรือ ธุรกิจอะไรบ้างที่สามารถนำ Big data ไปใช้ได้

หลังจากที่ได้อ่านคอนเทนต์ Big data คืออะไร และ มีประโยชน์อย่างไรในชีวิตประจำวัน ไปแล้ว แต่หลายๆคนอาจจะยังสงสัยว่าจะสามารถนำมาใช้กับธุรกิจของตัวเองได้ไหม หรือธุรกิจรูปแบบไหนบ้างที่สามารถนำ Big Data มาใช้ได้

เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ

คอนเทนต์นี้จะมาเล่าถึงการนำ Big Data ไปใช้ในแต่ละอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นของรัฐบาลหรือเอกชน พร้อมกับยกตัวอย่างธุรกิจต่างๆที่เราเจอในชีวิตประจำวันจากอุตสาหกรรมต่างๆที่นำ Big Data ไปใช้

ด้านอุตสาหกรรมดนตรี การแสดง และภาพยนต์ (Music, Shows, and Movies) 

เป็นหนึ่งในการนำ big data มาใช้ที่ส่งผลต่อชีวิตเรามากที่สุด คือผ่านความบันเทิงและสื่อต่างๆที่เราใช้ ซึ่งรวมถึงการสตรีมเพลง หรือภาพยนต์ ตามแพลตฟอร์มต่างๆ

การสตรีมได้ปฏิวัติวงการเพลงและภาพยนต์ เนื่องจากคนส่วนใหญ่หันมาใช้บริการสตรีมเพลงไม่น้อยเลยทีเดียว บริษัทต่างๆ เช่น Spotify และ Apple Music มักใช้ Big data เพื่อติดตามเพลงที่คุณเลือก และปรับการแสดงข้อมูลเพื่อให้แสดงผลได้เหมาะสมกับความชื่นชอบของคุณเองมากที่สุด 

หรืออย่างในวงการสตรีมภาพยนต์ เช่น Netflix ที่เห็นได้ชัดเจนจากการที่แยกผู้ชมออกเป็นคนๆ ใน 1 Family account และเมื่อเข้าไปดูใน account ของแต่ละคน ก็จะพบว่าในหน้าแรกไม่ได้แสดงเนื้อหาที่คล้ายกันเลย ถึงแม้ว่าผู้ชมจะอยู่ในบ้านเดียวกันก็ตาม นั่นก็เป็นเพราะ Netflix ได้มีการจดจำพฤติกรรมและความชอบของคนนั้นผ่านการเก็บข้อมูล Big data แล้วนำมาวิเคราะห์ความชอบ เพื่อนำไปแสดงผลในหน้าแรก

อุตสาหกรรมเกี่ยวกับสุขภาพ หรือทางการแพทย์ (Healthcare and Medical Services)

ติดตามสุขภาพ และดูรูปแบบสุขภาพของคนๆนั้น (health patterns) เช่นแอพลิเคชั่นต่างๆใน Smart watch ที่มีการวัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดระดับ O2 ในเลือด ฯลฯ

คาดเดาอาการ หรือความเสี่ยงการติดเชื้อ เช่น ในไทยที่มีแอพลิเคชั่นให้เชคอินตามสถานที่ต่างๆในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 หนักๆ หากคนๆนั้นได้ไปเชคอินในสถานที่เดียวกับผู้ติดเชื้อ จะได้ติดตามอาการ และกักตัวเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อได้

หรืออาจจะเป็นการติดตามผลอื่นๆเพื่อทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เช่น การใส่นาฬิกา Smart watch เพื่อติดตามการนอนหลับ การเคลื่อนไหวของร่างกาย หากมีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ หรือล้มแล้วหมดสติไป Smart watch จะส่งสัญญาณ S.O.S. ไปยังครอบครัวทันทีเพื่อให้เข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

ธุรกิจห้างสรรพสินค้า และการตลาด (Shopping and Marketing)

e-commerce  platform ต่างๆ ที่จะนำ big data มาประมวลผลและวิเคราะห์ความชอบของลูกค้าคนนั้นๆ เพื่อให้แสดงผลเป็นสินค้าที่ลูกค้าสนใจจะซื้อ รวมไปถึงการทำ Personalization marketing ด้วย

การท่องเที่ยว และการคมนาคม (Travel and Transportation) 

เช่น ในธุรกิจโรงแรมจะมีการบันทึกข้อมูลว่าลูกค้าคนนี้สนใจห้องประเภทไหน จะมาเที่ยวกี่คน เพื่อนำเสนอห้องในแบบที่ลูกค้าคนนั้นต้องการ หรือจะเป็นการทำ Personalize Marketing สำหรับลูกค้าคนนั้นโดยเฉพาะ 

ส่วนในทางคมนาคมนั้น จะป็นการใช้สำหรับพัฒนาระบบ GPS ให้ฉลาดมากขึ้น เช่นการประเมินระยะเวลาเดินทาง จากประวัติการขับขี่ของผู้ขับขี่คนนั้นๆ ว่าที่ผ่านมาขับรถด้วยความเร็วเท่านี้ หากต้องเดินทางไปในเส้นทางนี้ จะใช้เวลาประมาณเท่าไหร่

ด้านนโยบายสาธารณะและความปลอดภัย (Public Policy and Safety) 


Big Data ได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากกว่าที่เราคิด เห็นได้จากวิธีการที่หน่วยงานบริการสาธารณะ ผู้กำหนดนโยบาย ไปจนถึงหน่วยงานราชการอย่างตำรวจหรือหน่วยดับเพลิงและภาครัฐในทุกระดับเองล้วนมีการรวบรวมข้อมูลเหล่านี้เพื่อนำไปใช้พัฒนานโยบายใหม่รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพและความถูกต้องจากข้อมูล Big Data ที่มีในมือ

หน่วยงานตำรวจและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในหลายประเทศทั่วโลกได้ปรับมาทำงานเชิงรุกกว่าในอดีต โดยการใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ กล้อง และอุปกรณ์พกพาติดตามเหตุการณ์แบบเรียลไทม์ เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายได้อย่างได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากขึ้นโดยอาศัยการรวบรวมและการตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องจากทั่วโลก .

หน่วยดับเพลิงและหน่วยกู้ภัยฉุกเฉินอื่นๆก็อาศัย Big Data ในการทำงานเช่นเดียวกัน ผ่านการเข้าถึงคลังข้อมูลที่รวบรวมโดยรัฐบาลอย่าง ระบบเฝ้าระวัง การติดตามด้วย GPS สำหรับยานพาหนะฉุกเฉิน เครื่องตรวจจับอัคคีภัยและควัน แหล่งข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้แผนกดับเพลิงเตรียมพร้อมในการตอบสนองต่อเหตุฉุกเฉินจากอัคคีภัยได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

ด้านข่าวสารและสารสนเทศ (News and Information)

ไม่ว่าคุณจะพึ่งพาแหล่งข่าวใดเพื่อเสพเนื้อหาในแต่ละวัน ทุกประสบการณ์การได้รับข่าวสารของคุณล้วนเชื่อมโยงมาจาก Big Data ที่ได้รับข้อมูลมหาศาลตลอดเวลาจากหลากแหล่ง อย่างเช่นการนำเสนอข่าว รายงานข่าวด่วน กระทั่งความคิดเห็นที่เกิดขึ้นบนสื่อโซเชียลมีเดีย 

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสื่อโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทสำคัญในวงการข่าวกว่าที่ผ่านมาและส่งสารถึงผู้รับได้รวดเร็วกว่าเดิม ยกตัวอย่าง Twitter ที่ผู้ใช้สามารถทวิตเรื่องราวเกี่ยวกับพวกเขาได้ภายในชั่ววินาที ความรวดเร็วทันต่อเหตุการณ์นี้เองเป็นที่มาให้ Twitter กลายเป็นแพลตฟอร์มที่นักข่าวหลากหลายสำนักเลือกใช้ในการนำเสนอข่าวมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งยังสามารถเลือกนำเสนอไปยังผู้คนในช่วงเวลาและพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย

แน่นอนว่า Big Data ที่เกิดขึ้นผ่านการมีอยู่ของข่าวสารในแต่ละวัน ย่อมมีอิทธิพลต่อวิถีชีวิตประจำวันของผู้คนอย่าง ยกตัวอย่างเช่น หน้าไทม์ไลน์บนโซเชียลมีเดียที่มักจะผลักดันเนื้อหาข่าวสารที่มีคนพูดถึงมากที่สุดมาให้เรารับรู้ ด้วยกระบวนการจัดการข้อมูลเพื่อให้ได้รับเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความสนใจก่อนเรื่องอื่นๆ

ด้านการศึกษาและการจ้างงาน (Education and Employment)

เรื่องจริงน่าตกใจเกี่ยวกับ Big data อีกเรื่องคืออิทธิพลที่ข้อมูลขนาดใหญ่นี้มีผลต่อเรื่องสำคัญในชีวิตเราทุกคนในแง่ของการศึกษาและการจ้างงานด้วยเช่นกัน ทั้งในส่วนของการรับเข้าศึกษาของมหาวิทยาลัยหรือขั้นตอนรับสมัครและว่าจ้างพนักงานล้วนอาศัยประโยชน์ของ Big Data ด้วยทั้งนั้น

ยกตัวอย่างสถานศึกษาและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในปัจจุบัน ต่างพึ่งพาโปรแกรมทางสถิติที่ออกแบบมาเพื่อระบุและดึงดูดนักศึกษาที่เหมาะสมและสามารถช่วยให้สถาบันบรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้ อย่างเช่น โรงเรียนได้รับประโยชน์จากอัตราการลงทะเบียนที่สูงขึ้นและมีอัตราการสำเร็จการศึกษาที่ดีขึ้น การตัดสินใจรับเข้าเรียนจึงต้องอาศัย Big Data เพื่อทำนายถึงโอกาสของความสำเร็จของทั้งนักเรียนและสถาบันการศึกษา 

ผู้ว่าจ้างเองได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่มีใน Big Data เพื่อปรับปรุงกระบวนการจ้างงาน ผ่านการรวบรวมข้อมูลจำนวนมากเพื่อระบุผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและมีความถนัดเฉพาะทาง รูปแบบของ Big Dataที่ว่าได้แก่ 

  • การศึกษา
  • ประวัติงาน
  • ภาษา
  • งานสาธารณะ ตัวอย่าง
  • พฤติกรรมบนโซเชียลมีเดีย

ด้านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI)


ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) มีส่วนเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันเรามากกว่าที่คิด ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดที่เราอาจพบเจอได้บ่อยครั้งก็คงไม่พ้น แชทบอท ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการทำงานของ Big Data กับ AI ทำให้ “บอท” เหล่านี้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาตัวเองเพื่อให้เราได้รับประสบการณ์การค้นหาที่เฉพาะเจาะจงและตอบโจทย์กว่าเดิม 

ในภาพรวมแล้วทั้ง Big Data และ AI ต้องพึ่งพาอาศัยกันในการทำงาน โดย Big Data จะเป็นเชื้อเพลิงด้านข้อมูลคอยกระตุ้นการพัฒนาตัวเองของ AI  ในขณะเดียวกัน AI ก็จะประยุกต์ข้อมูลเชิงลึกที่รวบรวมจาก Big Data มาพัฒนาต่อได้ตามวิธีต่างๆดังข้างล่างนี้ 

  • AI สร้างวิธีการใหม่ในการวิเคราะห์ข้อมูล
  • AI ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลใช้แรงงานน้อยลง
  • AI ยังคงต้องใช้มนุษย์ในการไกด์และให้คำแนะนำ 
  • AI สามารถแบ่งเบาปัญหายุ่งยากทั่วไปของ Data
  • AI ช่วยให้ขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลนำไปสู่การคาดการณ์ผลลัพธ์และกำหนดได้ชัดเจนมากขึ้น

ยิ่งเราเข้าใจถึงอิทธิพลของ Big Data ที่มีต่อชีวิตประจำวันของเรา การเข้าใจในการทำงานของAIก็ยิ่งทำให้เราสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาสร้างประโยชน์ได้อีกมากมาย