นักการตลาดดิจิตอล จะรู้ได้อย่างไรว่าเว็บไซต์พัฒนาเนื้อหามาได้ถูกทางหรือมีคนสนใจในโปรดักส์ของเรามากน้อยเพียงใด Bounce Rate เป็นหนึ่งตัวชี้วัดบน GA4 ที่คนทำเว็บไซต์ควรให้ความสำคัญ เพราะตัวเลขเหล่านี้กำลังบอกว่าผู้คนสนใจกับเนื้อหาบนหน้าเว็บของเรามากน้อยแค่ไหน และมีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยทำให้ค่า Bouce Rate ของเว็บอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
Bounce Rate คืออะไร
Bounce Rate คือ อัตราของผู้ใช้ที่คลิกเข้ามาในหน้าเว็บไซต์เพียงหน้าเดียวและกดปิดโดยไม่มีส่วนร่วมใดๆ หรือคลิกลิงก์ไปหน้าอื่นๆ ต่ออีกส่งผลให้มีค่า Session Duration เท่ากับ 0 วินาที
Bounce Rate จึงนับเป็นหนึ่งตัววัดคุณภาพเว็บไซต์ของเราว่าตอบโจทย์ต่อผู้ใช้งานมากน้อยเพียงใด มีเนื้อหาน่าสนใจแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อเราต้องการให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมกับเนื้อหาต่างๆบนเว็บไซต์
Bounce Rate สำคัญอย่างไร
สิ่งที่บ่งบอกว่าเว็บไซต์ของเราดีแล้วหรือยังดูได้จากค่าอัตรา Bounce Rate ตัวเลขนี้สำคัญมากกับนักการตลาดที่คลุกคลีอยู่กับ Digital Marketing และ ต้องทำการตลาดบนเว็บไซต์ หากเคยมีความสงสัยว่าทำไมหน้าเว็บไซต์ของเรานั้นถึงไม่มีผู้ใช้สมัครใจกรอกฟอร์ม คลิกลิงก์ หรือกดซื้ออะไรเลย การทำความเข้าใจกับตัวเลข Bounce Rate ที่เกิดขึ้นย่อมทำให้เราพัฒนา Page Experience ได้อย่างถูกจุดและประหยัดเวลา
Bounce Rate จึงมีความสำคัญมากเพราะสะท้อนถึงคุณภาพของเว็บไซต์เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเนื้อหาที่ตอบโจทย์ หน้าตาเว็บที่ใช้งานง่าย เลย์เอาต์ที่สวยงาม รวมถึง ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ ยิ่งไปกว่านั้น อัตรา Bounce Rate คือสิ่งที่ช่วยอธิบายว่าทำไมเว็บไซต์ของเราถึงไม่เกิด Conversion เท่าที่คาดหวังไว้ หากปรับปรุงให้ผู้ใช้อยู่บนเว็บนานขึ้น เลข Bounce Rate ก็จะลดลง และทำให้ Google มองว่าเว็บไซต์เหมาะที่จะอยู่ในอันดับที่สูงขึ้น
Bounce Rate สูงเท่ากับหายนะแล้วหรือไม่
เพราะอัตรา Bounce Rate ยิ่งสูงเท่าไหร่ยิ่งแปลว่ามีผู้ใช้คลิกมาหน้าเดียวและคลิกออกไปเยอะเท่านั้น ซึ่งโดยทั่วไปแล้วค่า Bounce Rate ที่นับว่าสูงมากและควรนำมาพิจารณาเพื่อปรับปรุงคุณภาพเว็บไซต์มักอยู่ที่ 90 % ขึ้นไปเพราะแปลว่าใน 100 คนที่คลิกเข้ามามีถึง 90 คนที่กดปิดโดยไม่สนใจคลิกอะไรต่อ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับประเภทเว็บไซต์เราด้วย หากเราตั้งเป้าไว้ว่าอยากให้คนมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์ อย่างการคลิกหยิบลงตระกร้า, Check-out, ลงทะเบียน, อ่านละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรดักส์ หรือสมัครสมาชิก แต่กิจกรรมใดๆ ก็ตามที่คาดหวังจากผู้ใช้นั้นไม่เกิดขึ้นเลยหรือมีคนสนใจมีส่วนร่วมแค่ 10 % จาก 100% แปลว่าเนื้อหาบนเว็บอาจจะยังไม่ตอบโจทย์หรือน่าสนใจเพียงพอ จุดนี้อาจจะต้องย้อนกลับมาดูส่วนที่ควรพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม
ยกเว้นในกรณีที่หน้าเว็บเราไม่ได้มีเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้ใช้เข้ามามีส่วนร่วมด้วยและไม่ได้ใส่ลิงก์ให้คลิกไปหน้าอื่นๆ เพิ่มเติม อาจไม่จำเป็นต้องเครียดกับตัวเลข Bounce Rate มากนัก
Bounce Rate vs Exit Rate ต่างกันอย่างไร
แม้ Bounce Rate กับ Exit Rate จะคล้ายกันอยู่บ้าง แต่แตกต่างกันตรงที่ว่า Bounce Rate เป็นอัตราเฉลี่ยของคนที่เข้ามาหน้านี้หน้าเดียวเท่านั้นโดยไม่ทำอะไรเลยแล้วกดปิดหรือคลิกกลับไปหน้าก่อนหน้า ในขณะที่ Exit Rate คืออัตราการกดออกจากเว็บไซต์เมื่อเข้ามาที่หน้าเว็บหรือหลายๆหน้าเว็บ (จำนวน Exits/จำนวน Pageviews)
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายขึ้นเช่น มีหนึ่งคนคลิกเข้ามาหน้า A เพื่ออ่านคอนเทนต์ How to และคลิกออกหรือคลิกกลับไปหน้าก่อนหน้า แบบนี้จะนับว่าเป็นการ Bounce แต่ในกรณีที่หนึ่งคนคลิกเข้ามาหน้า A และคลิกต่อไปที่หน้า B แล้วจึงปิดหน้านี้ไปหรือคลิกไปเว็บไซต์อื่น แบบนี้จะนับว่าเป็นการ Exit
หากนำความแตกต่างนี้มาวิเคราะห์เชิงการตลาดอาจจะมองได้ว่า Bounce Rate เกิดเพราะคนไม่สนใจในเนื้อหาบนเว็บในขณะที่ Exit Rate เกิดเมื่อคนมีความสนใจประมาณหนึ่งแล้วคลิกหน้าอื่นๆ ต่อแต่ท้ายที่สุดผลลัพธ์ที่ได้ไม่โดนใจพอให้เกิด Conversion จนต้องกดปิดไปเว็บอื่น นักการตลาดอาจจะต้องมาทบทวนเรื่อง Conversion Rate Optimization (CRO) อีกที
อ่านเพิ่มเติม : ตัวช่วยวิเคราะห์ Keyword จับจุดอ่อนชี้จุดแข็งด้วย Search Console Bubble Chart
ที่มาข้อมูล Support l Google
Get in touch
Let's work together!
"*" indicates required fields