Google Analytics 4 ที่ต้องรู้ (Part 4/4): วิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคผ่านโมเดลกล่องดำ ด้วย GA4

ในการทำแผนการตลาด จะมีขั้นตอนในการวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภค (Consumer Behavior) ซึ่งจะมี “กล่องดำ หรือ Black Box” อยู่ด้วย เจ้ากล่องดำนี่แหละที่เป็นกุญแจสำคัญ ยิ่งเราเจอของในกล่องนี้มากเท่าไหร่  ก็จะช่วยให้เราวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำมากขึ้นเท่านั้น แต่การหาของในกล่องดำถือเป็นความท้าทายที่นักการตลาดต้องเจออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เลย แต่วันนี้เรามี Google analytics และระบบ CRM เข้ามาช่วยในการหาของในเจ้ากล่องปริศนานี้แล้ว มาดูกันเลยว่าต้องทำยังไงบ้าง

ข้อมูลใน Google Analytics นั้นสามารถวิเคราะห์ได้หลายแบบมาก อย่างที่เราได้เคยเล่าไปในบทความก่อนหน้า สามารถอ่านได้ที่

ก่อนอื่นเรามารู้จัก “กล่องดำ หรือ Black Box” กันก่อน

ตามทฤษฏีแล้ว กระบวนการการตัดสินใจซื้อจะเป็นตามภาพด้านล่างนี้

โดยพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคจะถูกกระตุ้นโดยปัจจัยภายนอกก่อน และถ้าปัจจัยภายนอกนั้นสามารถเชื่อมโยงกับกับพฤติกรรมที่อยู่ใน Black Box จะทำให้เข้าสู่กระบวนการตัดสินใจซื้อได้

จะเห็นได้ชัดเลยว่าในส่วนของผู้บริโภคนั้น จะเป็นอะไรที่เราไม่สามารถจับต้องได้ เราจึงเรียกพฤติกรรมที่อยู่ในขั้นตอนนี้ว่า “Black box” เพราะมันเป็นเหมือนกับกล่องดำ ที่เราไม่รู้เลยว่าในนั้นมีของอยู่กี่ชิ้น แต่ยิ่งเราหาของในกล่องนี้เจอมากเท่าไหร่ จะยิ่งทำให้เราผลิตสินค้าหรือบริการออกมาตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น หรือแม้กระทั่งออกแบบวิธีการสื่อสารได้ตรงใจลูกค้ามากขึ้นเช่นกัน นี่แหละที่เขาพูดกันว่า “รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้ง ชนะร้อยครั้ง” ยิ่งเรารู้มากเท่าไหร่ โอกาสที่เราจะได้ชัยชนะในตลาดนี้ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น ! 

จะรู้ได้ยังไงว่าในกล่องนั้นมีของอยู่กี่ชิ้น?

จริงๆเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่ากล่องนั้นจะมีของอยู่กี่ชิ้น แต่ยิ่งเราหาเจอมากเท่าไหร่ จะยิ่งได้เปรียบในการแข่งขันมากเท่านั้น เช่น ธุรกิจ Real estate

สถานการณ์ที่ 1: ไม่มีระบบ CRM ต้องใช้ Event tagging เพื่อดูพฤติกรรมของ User ใน GA เช่น

  • จำนวนผู้ใช้งานที่กรอก Lead
  • มี Landing page และ Exit page ที่หน้าไหนบ้าง 

อาจจะพบว่า มี User บางส่วน ที่มี Landing page ที่หน้าโครงการแถวเมืองทอง และมี การ Drop Lead และ Exit page ที่หน้าแปลนบ้าน อาจจะหมายถึง “User คนนั้น สนใจ Location เมืองทอง กำลังมองหาบ้านเดี่ยว ที่มี 2-3 ห้องนอน”

อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ไม่มีระบบ CRM เราจะไม่สามารถดูพฤติกรรม User ในส่วน Offline ได้เลยว่าเป็นคนเดียวกันกับที่มาจากช่องทาง Online หรือไม่ ซึ่งหมายความว่าเราอาจจะไม่สามารถเจาะลึกเข้าไปถึงข้อมูลที่อยู่ใน Black Box ที่สามารถเชื่อม Customer Journey แบบ 360 องศาได้เลย

สถานการณ์ที่ 2: มีระบบ CRM สามารถ Map พฤติกรรมของผู้ใช้งานคนนั้นทั้งในพาร์ท Online และ Offline เพื่อหาข้อมูลใน Black Box ควบคู่กันได้ ข้อมูลที่เราดูได้จะมีความเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น เช่น

  • จำนวน Lead ที่เข้ามา Walk-in หน้าโครงการ
  • เห็นทัศนคติและความต้องการที่แท้จริงของ Lead ว่าเหตุผลที่ตัดสินใจเลือกซื้อบ้านหลังนี้เป็นเพราะปัจจัยอะไรบ้าง

เราอาจจะพบว่า จากจำนวนผู้ใช้งานที่ Drop Lead ทั้งหมด มีเพียง 10% ที่เข้ามาเยี่ยมชมโครงการ และระหว่างที่เค้าเยี่ยมชมโครงการนั้น จะเกิด Conversion หลังจากเข้าดูบ้านตัวอย่างได้ 1 ชั่วโมง หลังจากเราวิเคาะห์พฤติกรรมของผู้บริโภครายนี้แล้ว อาจจะพบว่า สิ่งที่ทำให้เค้าตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ได้ใน 1 ชั่วโมงนั้น ที่จริงๆแล้วไม่ได้ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง หากเราดูพฤติกรรมย้อนหลัง จะพบว่าตลอดระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา เค้าเข้ามาดูแบบแปลนของบ้านหลังนี้ และดูตัวอย่างการตกแต่งภายใน และเมื่อเค้าเข้ามาที่หน้าโครงการ พบว่า “บ้านตัวอย่างเป็นแบบที่เค้าจินตนาการมาตลอด 6 เดือนตามแบบที่โชว์อยู่ในเว็บไซต์จริงๆ” จึงตัดสินใจซื้อได้เลยในทันที ทีนี้ เมื่อเรารู้อย่างนี้แล้ว เราอาจจะวางแผนปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ของเรา ทั้งด้าน UX/UI หรือภาพประกอบต่างๆในเว็บให้มีความสมจริง หรือตรงปกมากยิ่งขึ้น 

วันนี้ Predictive มาเล่าให้ฟังทั้งที จะเป็นวิธีธรรมดาก็คงจะทำให้หลายๆคนผิดหวัง แต่จะไม่เป็นแบบนั้นแน่นอน

หาของใน Black Box ด้วย Google Analytics 4 และ CRM 

ตัวอย่าง Report ธุรกิจที่ขาย Product 

จาก Report นี้เราจะเห็นว่ามีสินค้ามากมายที่เราวางขายอยู่ จะแสดงอยู่ใน Google Analytics ด้วย หลังจากเราติดตั้งระบบ CRM เรียบร้อยแล้ว และจะเห็นได้ว่า ผู้บริโภคสนใจสินค้า “Men’s / Unisex | Apparel | Google merchandise Store” เป็นจำนวน 6,498 คน และเราต้องการรู้ว่า ทำไมคนถึงสนใจสินค้ากลุ่มนี้เป็นจำนวนมาก เราสามารถ tracking ได้จาก “Event ที่เกิดขึ้นในแต่ละ Platform ที่เราได้ลงขายสินค้าไป”

และถ้าเราสร้าง Segment เราจะสามารถรู้ได้ว่า 

  • ทำไมเค้าถึงสนใจ เช่น ระยะเวลาที่ User ใช้ในหน้าต่างๆ 
  • มี Event อะไรเกิดขึ้นบ้าง เช่น User สนใจสินค้าตัวไหนบ้าง กดเข้าไปดูสินค้าตัวไหนบ้าง
  • User ที่เข้ามามีอายุเท่าไหร่ เพศอะไร เพราะ user แต่ละช่วงอายุจะมีความชอบและความต้องการที่แตกต่างกันออกไป

จากตัวอย่างการหาของในกล่อง Black box โดยใช้ GA4 ที่ได้กล่าวไว้ข้างต้น ทีม Data Analyst สามารถปรับแต่ง Report ให้เข้ากับธุรกิจที่แตกต่างกันออกไปได้ เพื่อให้แสดง Report ที่ตรงตามความต้องการที่แตกต่างกันออกไปตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ

และถ้าธุรกิจไหนสนใจหาของในกล่อง Black Box โดยใช้ Google Analytics 4 และ CRM อันดับ 1 อย่าง Salesforce สามารถติดต่อ Predictive เพื่อให้ทีม Data Analyst เข้าไปติดตั้ง Event tagging ใน Website ได้เลย หรือขอคำปรึกษาเบื้องต้นได้ฟรี

How we can help

Fill out the form below to discuss your needs or learn more about our services

"*" indicates required fields

Name*
Please let us know what's on your mind. Have a question for us? Ask away.