ใช้ AI ทำ Marketing ยังไงให้ฉลาดกว่าเดิม

“การใช้ AI ทำงานเพียงอย่างเดียว ไม่ได้ช่วยให้นักการตลาดสร้างผลลัพธ์ที่ต่างจากคนอื่น แต่การนำความรู้ความสามารถเฉพาะตัวมาใช้กับ AI ต่างหาก ที่จะทำให้นำหน้าคู่แข่ง”

ตั้งแต่ AI ได้เปิดตัวไป ก็อาจจะทำให้หลายๆคนเริ่มกังวลว่า “AI จะเข้ามาแทนที่ตัวเอง” แต่จริงๆแล้ว AI เป็นเครื่องมือที่จะเข้ามาช่วยให้การทำงานของเรามีผลลัพธ์ที่ดีขึ้นต่างหาก และด้วยความเก่งของ AI สามารถช่วยเพิ่ม Performance ของแคมเปญต่างๆได้มากถึง 20% แต่ด้วยความเป็นมนุษย์ ความเข้าใจในธรรมชาติในระบบความคิดของคน ทำให้สามารถต่อยอดตัวเลขนี้ไปได้อีกถึง 15%

โซลูชั่นของ Google เปรียบเหมือนรถ Formula 1 ที่ใครๆก็ขับได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะไปถึงเส้นชัยได้ทันที จริงไหม?
โซลูชั่นของ Google เปรียบเหมือนรถ Formula 1 ที่ใครๆก็ขับได้ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะไปถึงเส้นชัยได้ทันที จริงไหม?

และถ้าทุกคนอยากเป็นคนที่ขับ Formula 1 ไปถึงเส้นชัย เรามี Trick and Tips มาแบ่งปันให้ทุกคนสามารถนำ AI ไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

Do and Don’t ในการนำ AI มาช่วยงาน Marketing
Do and Don’t ในการนำ AI มาช่วยงาน Marketing

Do and Don’t ในการนำ AI มาช่วยงาน Marketing

การนำ AI มาซัพพอร์ตการทำงาน เราต้องแน่ใจก่อนว่า AI สามารถช่วยเราในส่วนไหนได้บ้าง เพราะก็มีข้อจำกัดอีกเยอะมากๆที่ AI ยังไม่สามารถทำได้ดีเท่ามนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาษา ความเข้าใจบริบทของคำถาม/ประโยค และเราได้สรุปประเด็นสำคัญๆที่จะบอกคุณได้ว่าควรให้ AI มาช่วย Support ในส่วนไหนบ้าง

Brainstorming ideas:

  • Do: ด้วยข้อมูลขนาดมหาศาลที่ AI มีอยู่ เราสามารถนำ AI มาช่วยในขั้นตอนการ Brainstroming Ideas ได้ ไม่ว่าจะเป็น เขียนเรื่องอะไรดีที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราอยากจะสื่อสาร หรือ ตั้งชื่อคอนเทนต์ว่าอะไรดี หรือเสริมอะไรเข้าไปในเรื่องที่เรากำลังจะเขียนดี
  • Don’t: เราไม่ควรนำ AI มาสร้าง Content ทั้งหมดเลย เพราะ AI เองก็ยังไม่สามารถพัฒนาให้มีความครีเอทีพได้เท่ามนุษย์ Content ที่ได้จะไม่มีจังหวะและ Storyline ที่น่าสนใจเท่ามนุษย์เราเรียบเรียงเอง อาจทำให้คนอ่านรู้สึกก่อนที่จะอ่านจบได้

Researching audiences: 

  • Do: นอกจากข้อมูลมหาศาลที่ AI สามารถเข้าถึงได้ บวกกับ Social AI สามารถช่วยให้เราจับทิศทางของ Trends และช่วย Identify New Market Opportunity ให้คุณได้ นอกจากนั้นยังสามารถสรุปข้อมูลออกมาเป็น Report ให้ได้ด้วย
  • Don’t: ไม่ควรมั่นใจในผลลัพธ์ที่ได้จนเกินไป คุณควรตรวจสอบความถูกต้องและความเหมาะสมของข้อมูลที่ใช้ในการทำรีเสิร์ชก่อน เพื่อให้ข้อมูลที่จะแสดงผลออกมาเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด

ตอบคำถามเบื้องต้นกับลูกค้า: 

  • Do: คุณสามารถใช้ AI ในการมาช่วยตอบคำถามเบื้องต้นจากลูกค้าได้ เช่น ข้อมูลของสินค้า ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัท เป็นต้น 
  • Don’t: ยังไม่ควรใช้ AI เพื่อตอบคำถามที่เป็นประเด็นอ่อนไหวหรือเกี่ยวข้องการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะจุดอ่อนของ AI คือเรื่องการทำความเข้าใจอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์อย่างลึกซึ้ง เช่น การเอาใจใส่ การแสดงความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งหากเรานำไปใช้อาจจะส่งผลเสียต่อความรู้สึกของลูกค้าก็ได้

วิเคราะห์ข้อมูล: 

  • Do: AI สามารถช่วยให้นักการตลาดวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาดที่ทำอยู่ได้ ซึ่งข้อมูลที่ได้จะมีความแม่นยำสูงและจะช่วยให้นักการตลาดเห็นว่าแคมเปญไหนดี แคมเปญไหนควรปรับปรุง 
  • Don’t: ในมุมของการวิเคราะห์ AI ยังไม่สามารถทำได้ดีในการวิเคราะห์ข้อมูลละเอียดอ่อนอย่างเรื่องอารมณ์และความรู้สึก แต่ก็มีข้อเสียในแง่การทำความเข้าใจข้อมูลทางภาษาของมนุษย์อยู่ เช่น ลูกค้าบอกว่าสินค้าตัวนี้ตาแตกมาก ซึ่งในความหมายของมนุษย์หมายถึงดีมาก แต่ AI อาจไม่ได้เข้าใจแบบนั้น

Personalizing experiences: 

  • Do: AI สามารถช่วยนักการตลาดโดยนำ First Party Data มาวิเคราะห์เพื่อช่วยสร้าง Content และ Promotion ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ซึ่งมันจะช่วยเพิ่ม Loyalty และ Engagement ของลูกค้าได้
  • Don’t: คุณต้องระวังในการนำ AI มาใช้ทำ Personalizing experiences เพราะ AI จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ได้ คุณจึงควรมีแนวทางป้องกันข้อมูลรั่วไหลหรือแนวทางการนำข้อมูลไปใช้อย่างเหมาะสม เช่น แจ้งผู้ใช้ให้ทราบถึงการนำข้อมูลไปใช้ การขอความยินยอมเผยแพร่ข้อมูลจากผู้ใช้
People Skills ก็สำคัญไม่แพ้กับสมรรถนะของ Platform
People Skills ก็สำคัญไม่แพ้กับสมรรถนะของ Platform

People Skills ก็สำคัญไม่แพ้กับสมรรถนะของ Platform

การใช้ AI ทำงานเพียงอย่างเดียว อาจทำให้คุณไม่ได้ผลลัพธ์แตกต่างจากนักการตลาดคนอื่น ๆ ที่ใช้ AI เหมือนกัน ด้วยความเก่งของ AI ทำให้ Performance ของแคมเปญที่มี เพิ่มขึ้นได้มากขึ้นถึง 20% แต่ความเชี่ยวชาญของมนุษย์ สามารถต่อยอดตัวเลขนี้ไปได้อีกถึง 15% ดังนั้น เมื่อคุณใช้ AI เพื่อลดภาระงานแล้ว คุณก็ควรพัฒนาทักษะที่จำเป็นต่องานควบคู่กับการใช้ AI ไปด้วย เพื่อให้งานของคุณมีผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น 

  1. Content Marketing: การสร้าง Content ไปยังกลุ่มเป้าหมายเป็นทักษะสำคัญที่นักการตลาดยุคนี้ต้องมี เพราะมันเป็นเครื่องมือที่ประหยัดและดึงดูดลูกค้าได้ดีที่สุด ซึ่งในการสร้างคอนเทนต์โน้มน้าวใจ คอนเทนต์ที่เล่นกับความรู้สึกลูกค้า เช่นความกลัว คอนเทนต์ที่ต้องสร้างอารมณ์ร่วม ล้วนเป็นสิ่งที่ AI ทำได้ยากทั้งสิ้น เราในฐานะมนุษย์ควรเรียนรู้เรื่องนี้ให้ชำนาญและนำ AI มาช่วยคิดส่วนประกอบเล็ก ๆ ของบทความ เช่น Topic และ Headline ของบทความ
  1. Growth Mindset: สิ่งที่ AI ทำไม่ได้อย่างมนุษย์คือการมีความคิดนอกกรอบและสร้างสรรค์ ดังนั้นการมี Growth mindset จะทำให้คุณกล้าที่จะลองผิดลองถูก อยากพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และไม่กลัวที่จะพลาด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมีประสบการณ์ และได้มองเห็นโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ 
  1. Empathy: ปัจจุบัน AI ยังไม่สามารถเข้าใจเรื่องละเอียดอ่อนอย่างเรื่องของความรู้สึกได้ ดังนั้น คุณควรมีทักษะในการเข้าใจผู้อื่นถึงความคิด อารมณ์ ความรู้สึก โดยไม่เอาตนเองเป็นศูนย์กลาง เพื่อให้คุณสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า และเข้าถึงใจของลูกค้า
  1. พื้นฐานของ Machine Learning: ก่อนที่คุณจะใช้ AI ช่วยงาน คุณควรทำความเข้าใจก่อนว่า หลักการทำงานของมันคืออะไร เพื่อให้คุณเข้าใจว่าต้องป้อนข้อมูลแบบไหน หรือตั้งคำถามอย่างไร เพื่อให้ Machine learning ประมวลผลออกมาได้อย่างที่เราคาดหวัง

หากคุณต้องการนำ AI มาใช้ในการทำธุรกิจ หรือช่วยเสริมประสิทธิภาพให้กับทีมงานของคุณ สามารถปรึกษา Predictive ได้เลย เรามีบริการทั้งหารเตรียม 1st Party Data เพื่อนำไปใช้งานต่อ ไม่ว่าจะเป็นกับ AI หรือการใช้งานด้านอื่นๆก็ตาม รวมไปถึงการทำ AI หรือ Machine Learning Model แต่หากใครยังไม่แน่ใจว่า AI จะสามารถช่วยงานในส่วนไหนได้บ้างในสิ่งที่กำลังทำอยู่ ก็สามารถติดต่อ Predictive ได้เช่นกัน เรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ