ตามคลิปวิดิโอที่คุณ Daniel Mac, Tiktoker ที่ทำคอนเทนต์ภายใต้คอนเสปที่ว่า “คุณขับรถเท่ขนาดนี้ คุณทำงานอะไร” และเขาได้บังเอิญพบกับ Shou Zi Chew หนุ่มนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ CEO Tiktok และได้ถามคำถามกับเขาว่า “มีอะไรอยากจะบอกกับคนเป็นคนทำวิดิโอบ้าง” สิ่งที่ Shou Zi Chew ตอบกลับมานั่นก็คือ
“When you take a video,
make sure you don’t do the millennial pause,
Because I did it and I got comment on it”
นั่นหมายความว่า
จาก Data ที่คุณ Chew มีอยู่นั้น
แสดงให้เห็นว่าการทำ Creative ให้ประสบความสำเร็จ
จำเป็นต้องมี Data เข้ามาช่วย
จากข้อความที่คุณ Chew, CEO of Tiktok ได้พูดออกมานั้น มีความน่าสนใจคือ เค้าได้นำ Data หลังบ้านของ Tiktok มาบอกพวกเราชาว Content Creators ที่กำลังทำ Short VDO อยู่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มไหนก็ตาม หากคุณกำลังทำ Short VDO คุณได้ประโยชน์จากคอนเทนต์นี้แน่นอน ซึ่งเราก็เห็นกันได้ชัดอยู่แล้วว่า Tiktok ประสบความสำเร็จและเป็นผู้นำในสาย Short VDO Entertainment จากสถิติการเติบโตของแพลตฟอร์มที่ก้าวกระโดด จากยอดผู้ใช้งาน 1 พันล้านคนในระยะเวลาเพียง 6 ปีนิดๆ นำหน้าทุก Social Media ไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Instagram ก็ตาม เดี๋ยวเรามาดูกันครับว่าผู้นำในวงการ Entertainment คนนี้เค้าอยากจะบอกอะไรกับพวกเรากันนะ
เลือกอ่านหัวข้อที่คุณสนใจ
ว่าแต่ Millennial Pause คืออะไร ?
ทุกคนอาจจะเคยได้ยินคำว่า “Gen Millennial” หรือ Gen X ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนที่เกิดในช่วงปี 1981-1995 ส่วน Millennial Pause ก็คือพฤติกรรมการถ่ายคลิปของชาว Gen Millennial นั่นเอง ที่ตอนเริ่มถ่ายคลิป 1-2 วินาทีแรกจะหยุดนิ่ง เพื่อให้แน่ใจว่าวิดิโอนั้นกำลังถูกบันทึกอยู่จริงๆ แล้วค่อยเริ่มพูดถึงเนื้อหาที่ตั้งใจ เซเลปชื่อดังอย่าง Kim kardashian ก็ยังถูกแซวเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ
โดยคำว่า Millennial Pause นั้นก็มาจากการที่คน Gen Millennial ที่ส่วนมากยังไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดมากๆในช่วงเวลาที่พวกเขาเริ่มเข้าสู่วัยกลางคน ซึ่งเป็นเหตุผลที่อาจจะทำให้พวกเค้าไม่ได้ชำนาญกับการตัดต่อคลิปวิดิโอมากพอที่จะไปตัดช่วง 1-2 วินาทีตอนเริ่มคลิปนั้นออก ในขณะที่ผู้คนในกลุ่ม Gen Y ก็มีการบันทึกวิดิโอแบบเดียวกันกับที่คนกลุ่ม Gen Millennial ทำนั้นแหละ เพียงแต่พวกเค้าไปตัดช่วง 1-2 วินาทีแรกออกเท่านั้นเอง
อย่าให้วิดิโอของคุณมี Millennial Pause !
การดู Data เพื่อซัพพอร์ตการทำ Creative เป็นเรื่องสำคัญมาก ไม่อย่างนั้นคอนเทนต์ของเราที่ออกมาก็จะเป็น “คอนเทนต์ที่เราอยากทำ” ไม่ใช่ “คอนเทนต์ที่ผู้ชมอยากดู”
อย่างที่ทุกคนน่าจะรู้กันดีว่าในยุคสมัยนี้มีคอนเทนต์เกิดขึ้นในโลกมากมาย นับล้านคอนเทนต์ต่อวัน ผู้คนเองก็อยากจะเสพคอนเทนต์ต่อวันให้มากขึ้น ทำให้เวลา 1-2 วินาทีในวิดิโอที่คุณไม่ได้พูดอะไรเลยกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ามันเปลืองเวลาพวกเขาเสียจริง และเค้าอาจจะข้ามวิดิโอของคุณไป ทั้งๆที่ยังไม่ทันได้เห็นเนื้อหาเลยด้วยซ้ำว่าคุณตั้งใจทำมันแค่ไหน และมีสาระสำคัญที่คุณอยากจะแบ่งปันผ่านวิดิโอของคุณคืออะไร
Predictive Tips! : Gen Z Shake
เรื่องสำคัญที่เราอยากจะบอกกับคนที่ทำคอนเทนต์ Short VDO ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Youtube, Tiiktok หรือช่องทางไหนก็ตาม เราอยากให้คุณลองนำ Data มาซัพพอร์ตการทำ Creative ของคุณดู แล้วคุณจะพบว่าการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอย่างมีทิศทางที่ตรงใจผู้ชม จะพาให้คุณไปสู่จุดที่ประสบความสำเร็จในแบบที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
สิ่งหนึ่งที่ชาว Tiktoker หลายคนไม่ทราบก็คือ “VDO ที่มี engagement ดีนั้น ส่วนมากจะเป็นวิดิโอที่มี movement ความเป็นธรรมชาติอยู่” อย่างเช่นคลิปที่แนบมานี้ หากคุณลองสังเกตุดูจะพบกับพฤติกรรม “การเขย่ากล้อง ในขณะที่เรียกผู้ชมตอนเปิดคลิป หรือตอนที่กำลังพูดถึงเรื่องที่เป็น Climax ของคลิปนั้นๆ” หรือที่เรียกว่า “Gen Z Shake” จาก Data ที่ทาง Tiktok มีอยู่ พบว่าคลิปวิดิโอที่มี Gen Z Shake จะมี Engagement สูงกว่าคลิปที่มีแค่คนนั่งพูด หรือเล่าเรื่องเหมือนที่เราเห็นได้บ่อยในคลิปจาก Youtube
หลังจากที่อ่านกันมาจนถึงตรงนี้แล้ว เราอยากจะบอกกับทุกคนที่ทำ Creative อีกครั้งว่าจะให้ความสำคัญกับเรื่อง Creative อย่างเดียวไม่ได้เพราะ Data หลังบ้านก็เป็นสิ่งสำคัญมากๆ เพราะนอกจากมันสามารถบอกได้ว่าการทำ Gen Z Shake และ Milliennial Pause ส่งผลต่อ Engagement ก็ยังสามารถบอกได้อีกว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง ที่ส่งผลต่อ Engagement ของคลิปต่างๆของคุณ และเราอยากเน้นย้ำอีกครั้งว่าควรดู Data ก่อนที่จะเริ่มวางแผนการทำ Content นะครับ และหากใครสนใจดู Data เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ตามจุดประสงค์ต่างๆตามเป้าหมายขององค์กร/ธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็น Data จากแพลตฟอร์มใดๆก็ตาม สามารถติดต่อ Predictive ได้เลย เรายินดีให้คำปรึกษาเบื้องต้นโดยไม่มีค่าใช้จ่าย
Get in touch
Let's work together!
"*" indicates required fields